รัสเซียโหมถล่มยูเครนทำลาย 315 เป้าหมาย

รัสเซียโหมถล่มยูเครนทำลาย 315 เป้าหมาย

กองทัพรัสเซียโหมทำลายเป้าหมาย 315 แห่งในยูเครน ซึ่งขีปนาวุธหลายลูกตกใส่เมืองลวีฟ และอีกบางเมืองช่วงเช้าวันจันทร์(18เม.ย.) หลังอ้างยึดพื้นที่ในเมืองมาริอูโปลได้เกือบทั้งหมด ขณะที่ผู้นำยูเครนลั่นไม่ยอมเสียภูมิภาคดอนบาสให้รัสเซีย

สื่อทางการรัสเซีย รายงานเมื่อวันจันทร์ (18 เม.ย.) ว่า กองทัพยิงทำลายเป้าหมายทางทหาร 315 แห่งในช่วงข้ามคืน ซึ่งบางเมืองถูกโจมตีช่วงเช้าวันนี้ โดยกองทัพสามารถทำลายโรงผลิตยุทโธปกรณ์ 4 แห่งด้วยขีปนาวุธอิสกันเดอร์ ซึ่งเป็นขีปนาวุธวิถีโค้งพิสัยใกล้ และระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซียยิงเครื่องบินขับไล่ของยูเครนตก 2 ลำ

ขณะที่กองบัญชาการทหารภูมิภาคลวีฟ อ้างว่า ขีปนาวุธอย่างน้อย 4 ลูกถูกยิงใส่เมืองลวีฟทางภาคตะวันตกของประเทศเมื่อเช้าวันจันทร์ (18 เม.ย.) และทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 คน และผู้บาดเจ็บ 8 คน โดยขีปนาวุธ 3 ลูกพุ่งเป้าใส่โครงสร้างพื้นฐานของกองทัพ และอีกลูกตกใส่ร้านซ่อมยาง และนายกเทศมนตรีของเมืองลวีฟ รายงานว่า มีการยิงขีปนาวุธ 5 ลูก

นอกจากนี้มีเสียงไซเรนดังทั่วกรุงเคียฟ เมืองหลวง และอีกหลายเมือง และมีเสียงระเบิดดังสนั่นในหลายเมือง

ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า มีประชาชนเสียชีวิต 18 รายและบาดเจ็บกว่า 100 คนจนจากการยิงถล่มนาน 4 วันในเมืองคาร์คีฟทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  และเขายังเชิญให้

ด้านประธานาธิบดีเอ็มมานูแอล มาครง ของฝรั่งเศสเยือนยูเครนเพื่อจะได้เห็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โดยน้ำมือของทหารรัสเซียด้วยตาตัวเอง

ขณะที่เดนิส ชมีฮัล นายกรัฐมนตรียูเครน กล่าวว่า ทหารยูเครนยังคงต่อสู้กับทหารรัสเซียในเมืองมาริอูโปลเมื่อวันอาทิตย์ แม้ว่ารัสเซียขีดเส้นตายให้วางอาวุธเพื่อแลกกับการไว้ชีวิตภายในเย็นวันดังกล่าว และยืนยันว่า เมืองนี้ยังไม่ได้ตกเป็นของรัสเซีย และทหารยูเครนยังควบคุมพื้นที่บางส่วนของเมือง

คำชี้แจงของยูเครนมุ่งตอบโต้คำอ้างของรัสเซียเมื่อวันเสาร์ที่บอกว่า ยึดพื้นที่ในเขตเมืองไว้ได้แล้ว เหลือเพียงทหารยูเครนและนักรบต่างชาติจำนวนหนึ่งอยู่ในโรงงานเหล็กอาซอฟสทาล

นอกจากนี้ เซเลนสกีได้ให้สัมภาษณ์ซีเอ็นเอ็นเมื่อวันอาทิตย์ว่า ยูเครนจะไม่ยอมยกดินแดนในภาคตะวันออกเพื่อแลกกับการยุติสงครามกับรัสเซีย และเตรียมพร้อมต้านทานอย่างเข้มแข็งสำหรับการสู้รบอย่างหนักน่วงในวงกว้างในภาคตะวันออก และยืนยันว่า การสู้รบในภูมิภาคดอนบาสจะเป็นจุดเปลี่ยนผลลัพธ์ของสงครามทั้งหมด 

ด้านผู้ว่าการภูมิภาคลูฮันสก์ โพสต์ในเฟซบุ๊คว่า เริ่มมีการสู้รบบนท้องถนนระหว่างทหารยูเครนและทหารรัสเซีย และขอให้ประชาชนอพยพออกจากเมืองเพื่อความปลอดภัย โดยสัปดาห์หน้าจะเป็นช่วงเวลายากลำบาก ซึ่งอาจเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะรักษาชีวิตของประชาชนได้

ส่วนนายกรัฐมนตรียูเครน เปิดเผยว่า รัฐบาลขาดดุลงบประมาณเกือบ 5,000 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน และเรียกร้องให้ชาติตะวันตกให้ความช่วยเหลือทางการเงิน และประธานาธิบดีเซเลนสกี ทวีตว่า เขาได้หารือกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศเรื่องการสร้างเสถียรภาพทางการเงินของยูเครน และการเตรียมพร้อมฟื้นฟูบ้านเมืองหลังสงคราม

ขณะเดียวกัน ทางการยูเครนได้เสร็จสิ้นการตอบแบบสอบถาม ที่เป็นขั้นตอนแรกของการสมัครเข้าเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป( อียู) และคาดหวังว่าจะได้สถานะของประเทศผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิกในช่วงการประชุมคณะมนตรียุโรปในเดือน มิ.ย.