ดาวโจนส์บวก 274 จุดเหตุนลท.ซึมซับสารพัดปัจจัยลบถ่วงตลาด

ดาวโจนส์บวก 274 จุดเหตุนลท.ซึมซับสารพัดปัจจัยลบถ่วงตลาด

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันศุกร์(18มี.ค.)ปรับตัวขึ้น 274 จุด หลังจากบรรดานักลงทุนซึมซับสารพัดปัจจัยลบที่เป็นตัวถ่วงตลาดให้ปรับตัวร่วงลง ไม่ว่าจะเป็นการระบาดของโรคโควิด-19 การเจรจาเพื่อสงบศึกระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมทั้งสถานการณ์ความไม่แน่นอนอื่นๆ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวขึ้น 274.17 จุด หรือ 0.8% ปิดที่ 34,754.93 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 1.1%  ปิดที่ 4,463.12 จุด และดัชนีแนสแด็ก ปรับตัวขึ้น 2.05% ปิดที่ 13,893.84 จุด

ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 400 จุดเมื่อวันพฤหัสบดี(17มี.ค.) ขานรับรายงานที่ว่า รัสเซียได้ชำระดอกเบี้ยพันธบัตรสกุลเงินดอลลาร์แล้วเมื่อวานนี้ ซึ่งช่วยให้รัสเซียรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้

นอกจากนี้ ตลาดยังคงได้ปัจจัยบวกจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามคาด รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ

ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นรวมกว่า 1,500 จุดในช่วง 3 วันที่ผ่านมา โดยทะยานขึ้น 4.7% นับตั้งแต่ต้นสัปดาห์ และมีแนวโน้มทำสถิติปรับตัวขึ้นในสัปดาห์นี้มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2563

นักลงทุนยังคงจับตาความคืบหน้าในการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน

นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน ปฏิเสธรายงานข่าวจากสื่อที่ระบุว่า การเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนได้ประสบความคืบหน้าอย่างมาก และทั้งสองฝ่ายใกล้บรรลุข้อตกลง

"ผมขอบอกว่าข่าวดังกล่าวผิดทั้งหมด ซึ่งเมื่อมีความคืบหน้า ผมจะบอกคุณเอง" นายเพสคอฟกล่าวต่อผู้สื่อข่าว

นายเพสคอฟยังตำหนิฝ่ายยูเครนที่ได้ถ่วงการเจรจา ทั้งๆที่ฝ่ายรัสเซียพร้อมที่จะเจรจาตลอด 24 ชั่วโมง โดยการเจรจาจะยังคงดำเนินไปในวันนี้
ทั้งนี้ หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทม์รายงานว่า การเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนประสบความคืบหน้าอย่างมาก และจะมีการบรรลุข้อตกลงในไม่ช้า

ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ได้เริ่มสนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำของจีน ในขณะนี้ ซึ่งเป็นการเจรจาโดยตรงเป็นครั้งแรกของผู้นำทั้งสองนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2564

นางเจน ซากี โฆษกทำเนียบขาว กล่าวว่า ปธน.ไบเดนจะหารือกับปธน.สี จิ้นผิงเกี่ยวกับการที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน รวมทั้งประเด็นการแข่งขันทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน และประเด็นอื่นๆ ที่ทั้งสองฝ่ายมีความกังวลร่วมกัน

"นี่เป็นความพยายามของเราที่จะยังคงเปิดช่องทางการสื่อสารระหว่างกัน" นางซากีกล่าว

มีการคาดการณ์กันว่า ปธน.ไบเดนจะเตือนปธน.สี จิ้นผิง ไม่ให้ช่วยเหลือรัสเซียในการหลีกเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐและชาติตะวันตก

นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า ปธน.ไบเดนจะพูดอย่างชัดเจนว่าจีนจะต้องรับผิดชอบต่อการกระทำใดๆก็ตาม ซึ่งเป็นการสนับสนุนให้รัสเซียรุกรานยูเครน และสหรัฐจะไม่ลังเลที่จะออกมาตรการลงโทษจีน

ทั้งนี้ จีนได้ปฎิเสธที่จะเข้าร่วมการคว่ำบาตรรัสเซียตามสหรัฐและชาติตะวันตก และได้งดออกเสียงต่อมติของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติในการประณามการที่รัสเซียส่งกำลังทหารโจมตียูเครน

จีนและรัสเซียได้แสดงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกัน หลังจากที่ปธน.ปูตินได้เดินทางเยือนกรุงปักกิ่งในเดือนที่แล้วเพื่อเข้าร่วมในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ซึ่งจีนเป็นเจ้าภาพ โดยปธน.สี จิ้นผิงและปธน.ปูตินประกาศว่าจีนและรัสเซียเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ "ที่ไม่มีขีดจำกัด"

นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟด สาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวว่า เฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 12 ครั้งในปีนี้ เพื่อแสดงว่าเฟดมีความจริงจังในการต่อสู้กับเงินเฟ้อ โดยเงินเฟ้อที่พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปีกำลังส่งผลกระทบต่อประชาชน

นายบูลลาร์ด กล่าวว่า เขาต้องการให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้อยู่สูงกว่า 3% จากระดับใกล้ 0% ในขณะนี้

ก่อนหน้านี้ นายบูลลาร์ดเป็นเจ้าหน้าที่เฟดเพียงรายเดียวที่ลงมติให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมสัปดาห์นี้ ขณะที่เฟดมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 0.25-0.50% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2561