เปิดข้อเสนอเจรจาสันติภาพ "ปูติน-เซเลนสกี"

เปิดข้อเสนอเจรจาสันติภาพ "ปูติน-เซเลนสกี"

“ปูติน” และ "เซเลนสกี" เผยเงื่อนไขที่จะนำไปสู่การยุติสงครามที่ดำเนินมานานกว่า 20 วัน แต่ประเด็นที่น่าจะมีความยากลำบากคือข้อเรียกร้องให้รับรองสถานะของดินแดนในภูมิภาคดอนบาสซึ่งแยกออกไปจากยูเครนและรัสเซีย

ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย แจ้งความต้องการของรัสเซียเกี่ยวกับข้อตกลงสันติภาพ ในระหว่างการหารือโทรศัพท์ราวครึ่งชั่วโมงกับนายเรเจป เทย์ยิบ เออร์ดวนประธานาธิบดีตุรกี ซึ่งวางตัวเป็นคนกลางในการหาทางออกให้กับสงครามรัสเซีย-ยูเครน

โฆษกและที่ปรึกษาของผู้นำตุรกีกล่าวว่า ความต้องการของรัสเซียแบ่งเป็น 2 ประเด็นหลัก โดยประเด็นแรกเป็นเรื่องไม่ยากสำหรับยูเครน นั่นคือการที่ยูเครนจะต้องวางตัวเป็นกลางและต้องไม่ยื่นสมัครเข้าเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต)

ส่วนข้อเรียกร้องอื่นๆ ภายใต้ประเด็นดังกล่าวรวมถึงการที่ยูเครนต้องเข้าสู่กระบวนการปลดอาวุธเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่เป็นภัยคุกคามต่อรัสเซีย ต้องปกป้องคนที่พูดภาษารัสเซียในยูเครน และต้องดำเนินการในสิ่งที่ปูตินให้คำจำกัดความว่าขจัดความเป็นนาซี

เมื่อวันพฤหัสบดี (17 มี.ค.)ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เผยแพร่ประเด็นที่ยูเครนให้ความสำคัญสูงสุด 6 ข้อในการเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย
 

"ประเด็นความสำคัญสูงสุดในการเจรจาของผมชัดเจนมาก” เซเลนสกีกล่าว พร้อมทั้งระบุว่า 6 ข้อเงื่อนไขที่ยูเครนเรียกร้องจากรัสเซียประกอบด้วย 1. การยุติสงคราม 2. การรับประกันด้านความมั่นคง

 3.อธิปไตยของชาติยูเครน 4.การรื้อฟื้นบูรณภาพเหนือดินแดน 5.การรับประกันอย่างแท้จริงสำหรับยูเครน และ6.การปกป้องอย่างแท้จริงสำหรับยูเครน

อย่างไรก็ตาม ข้อเรียกร้องของรัสเซียถูกสื่อตะวันตกระบุว่าเป็นข้อเรียกร้องเพื่อรักษาหน้าของรัสเซียเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่เรื่องนาซีเป็นข้อเรียกร้องที่ถือว่าเป็นการล่วงละเมิดอย่างรุนแรงต่อประธานาธิบดีเซเลนสกี ที่เป็นชาวยิว และมีญาติที่เสียชีวิตในช่วงการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว แต่ฝ่ายตุรกีเชื่อว่าเซเลนสกีน่าจะรับข้อเสนอดังกล่าวได้
 

แต่ประเด็นที่น่าจะมีความยากลำบากคือความต้องการในเรื่องที่ 2 ซึ่งเกี่ยวข้องกับสถานะของดินแดนในภูมิภาคดอนบาสซึ่งแยกออกไปจากยูเครนแล้ว โดยที่รัสเซียเพิ่งประกาศรับรองอธิปไตยของโดเนตสค์และลูฮานสค์ไปก่อนหน้าที่จะบุกยูเครน รวมถึงแหลมไครเมีย ซึ่งที่ปรึกษาของผู้นำตุรกีไม่ได้ให้รายละเอียดในเรื่องนี้มากนัก