ดาวโจนส์ทรุด 797 จุดกังวลน้ำมันพุ่งกระตุ้นเงินเฟ้อฉุดเศรษฐกิจสะดุด

ดาวโจนส์ทรุด 797 จุดกังวลน้ำมันพุ่งกระตุ้นเงินเฟ้อฉุดเศรษฐกิจสะดุด

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันจันทร์(7มี.ค.)ร่วงลง 797 จุด ท่ามกลางความกังวลที่ว่าการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันอันเนื่องจากวิกฤตการณ์ในยูเครนจะกระตุ้นเงินเฟ้อ และจะกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 797.42 จุด หรือ 2.37% ปิดที่ 32,817.38 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 127.78 จุด หรือ 2.95% ปิดที่ 4,201.09 จุด และดัชนีแนสแด็ก ลดลง 482.48 จุด หรือ 3.62% ปิดที่ 12,830.96 จุด

หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น ตามการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมัน

นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐและพันธมิตรกำลังพิจารณาคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียเพื่อตอบโต้ต่อการที่รัสเซียบุกโจมตียูเครน

หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง แม้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวขึ้นในวันนี้

นักลงทุนยังคงจับตาวิกฤตยูเครน ขณะที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครนเป็นวันที่ 12 โดยล่าสุด นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า รัสเซียพร้อมยุติปฏิบัติการทางทหารต่อยูเครน "โดยทันที" หากยูเครนปฏิบัติตามเงื่อนไขของรัสเซีย

นายเพสคอฟ กล่าวถึงรายละเอียดของเงื่อนไขต่างๆในวันนี้ ซึ่งถือเป็นการเปิดเผยจุดยืนของรัสเซียที่ชัดเจนที่สุดนับตั้งแต่ที่รัสเซียใช้ปฏิบัติการทางทหารต่อยูเครนในวันที่ 24 ก.พ.

นายเพสคอฟระบุว่า เงื่อนไขที่ยูเครนจะต้องปฏิบัติตามเพื่อให้รัสเซียยุติปฏิบัติการทางทหาร ได้แก่ 1) ยูเครนจะต้องยุติการดำเนินการทางทหาร 2) ยูเครนจะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อนำไปสู่การเป็นประเทศเป็นกลาง โดยยูเครนจะต้องปฏิเสธความตั้งใจที่จะเข้าร่วมกลุ่มพันธมิตรใดๆ 3) ยูเครนจะต้องให้การรับรองว่าไครเมียเป็นดินแดนของรัสเซีย 4) ยูเครนจะต้องให้การรับรองว่าสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์และลูฮันสก์ เป็นรัฐอิสระ

นายเพสคอฟ กล่าวว่า หากยูเครนยอมรับเงื่อนไขทั้ง 4 ข้อดังกล่าว รัสเซียก็จะยุติปฏิบัติการทางทหารต่อยูเครนโดยทันที

ตลาดจับตาตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพฤหัสบดี ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะจัดการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 15-16 มี.ค. ซึ่งเป็นการประชุมครั้งที่ 2 ในปีนี้

นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนนี้ ซึ่งไม่รุนแรงเหมือนกับที่นักวิเคราะห์บางรายคาดว่าจะปรับขึ้น 0.50%