'ยูเครน-รัสเซีย'เปิดเส้นทางให้ผู้อพยพหลังเจรจารอบสอง

'ยูเครน-รัสเซีย'เปิดเส้นทางให้ผู้อพยพหลังเจรจารอบสอง

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า รัสเซีย-ยูเครนบรรลุข้อตกลงเพิ่มเติมหลังร่วมเจรจารอบใหม่ในวันพฤหัสบดี(3มี.ค.) โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันว่าจะเปิดเส้นทางขนส่งเพื่อมนุษยธรรม และอาจมีการหยุดยิงเพื่อเปิดทางให้ประชาชนอพยพได้

อย่างไรก็ตาม แม้นายวลาดิเมียร์ เมดินสกี หัวหน้าคณะผู้แทนเจรจาของรัสเซียจะระบุว่า การเจรจามีความคืบหน้าสำคัญแต่กองกำลังรัสเซียยังคงเดินหน้าปิดล้อมและโจมตีเมืองต่างๆ ในยูเครนเป็นสัปดาห์ที่ 2

สมาชิกคณะผู้แทนเจรจารายหนึ่งของยูเครนระบุว่า การเจรจายังไม่บรรลุผลตามที่ยูเครนต้องการ เช่น การหยุดยิงโดยทันทีและการพักรบ แต่ทั้งสองฝั่งรับทราบตรงกันถึงความสำคัญของฟการอพยพประชาชน

ด้าน"มิไคโล โพโดลีแอค" ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครน กล่าวหลังการเจรจาครั้งนี้ว่า พวกเขาเห็นว่าอาจมีการหยุดยิงชั่วคราวเพื่อเปิดทางให้ประชาชนอพยพได้ รวมถึงเพื่อเปิดเส้นทางขนส่งเพื่อมนุษยธรรมด้วยแต่ก็ระบุว่า การหยุดยิงชั่วคราวนี้ไม่ได้เกิดขึ้นทุกที่ และอาจเกิดขึ้นเพียงในพื้นที่ที่จะมีการเปิดเส้นทางดังกล่าวเท่านั้น และจะหยุดแค่ช่วงเวลาที่เปิดให้มีการอพยพประชาชน

ขณะที่สำนักข่าวเบลตา ของทางการเบลารุส รายงานคำกล่าวของนายโพโดลีแอค ที่ระบุว่า ทั้งสองฝ่ายยอมรับตรงกันเกี่ยวกับการจัดส่งยาและอาหารไปยังบริเวณที่มีการสู้รบรุนแรง โดยทั้งสองฝ่ายจะเจรจาอีกครั้งในสัปดาห์หน้า

ด้านเว็บไซต์เอบีซี รายงานว่า ในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ระบุว่า รัสเซียยังคงเน้นย้ำว่า ข้อตกลงสันติภาพกับยูเครนใดๆ ก็ตาม จะต้องกำหนดให้ยูเครนปลอดทหาร โดยรัสเซียยังส่งสัญญาณว่า ต้องการให้ยูเครนรับสถานะเป็นกลางและตกลงที่จะยุติความพยายามเข้าร่วมองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ(นาโต้) 

เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย กล่าวระหว่างการสรุปข่าวทางโทรทัศน์ต่อผู้สื่อข่าวต่างชาติเมื่อวันพฤหัสบดีว่า รัสเซียพร้อมเจรจาแต่จะยังเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารต่อไป โดยให้เหตุผลว่า รัสเซียไม่สามารถปล่อยให้ยูเครนมีโครงสร้างพื้นฐานทางกองทัพได้เพราะเป็นภัยคุกคามต่อรัสเซีย

ด้านประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ยืนยันเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ยูเครนจะไม่ปลดกองทัพ และเขาพร้อมพบปะหารือกับประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูตินโดยตรงพร้อมทั้งเรียกร้องให้น่านฟ้ายูเครนเป็นเขตห้ามบินในทันที