ดาวโจนส์ร่วง 232 จุดเหตุนักลงทุนยังวิตกสถานการณ์ในยูเครน

ดาวโจนส์ร่วง 232 จุดเหตุนักลงทุนยังวิตกสถานการณ์ในยูเครน

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันศุกร์ (18ก.พ.)ร่วงลง 232 จุด ขณะที่นักลงทุนยังคงวิตกต่อสถานการณ์ในยูเครน หลังกองทัพรัสเซียประกาศจะทำการซ้อมรบด้วยอาวุธนิวเคลียร์ในวันศุกร์(19ก.พ.)ตามเวลาท้องถิ่น

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวร่วงลง 232.85 จุด หรือ 0.7% ปิดที่ 34,079.18 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500  ร่วงลง  0.7% ปิดที่ 4,348.87 จุด และดัชนีแนสแด็ก ปรับตัวลง 1.2% ปิดที่ 13,548.07 จุด

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปิดทำการในวันจันทร์ที่ 21 ก.พ. เนื่องในวันประธานาธิบดี

ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลงกว่า 600 จุดวานนี้ ซึ่งเป็นการทรุดตัวลงหนักที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี 2565 ท่ามกลางความวิตกที่ว่ารัสเซียใกล้บุกโจมตียูเครน

กองทัพรัสเซียจะทำการซ้อมรบด้วยอาวุธนิวเคลียร์ในวันศุกร์(19ก.พ.)ตามเวลาท้องถิ่น โดยจะมีการยิงขีปนาวุธแบบทิ้งตัว (ballistic missile) และขีปนาวุธร่อน (cruise missile) ซึ่งถือเป็นการแสดงแสนยานุภาพทางทหารของรัสเซีย ท่ามกลางช่วงเวลาวิกฤตในความขัดแย้งกับชาติตะวันตกในกรณียูเครน

นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า สถานการณ์ในดอนบาสยังคงน่าเป็นห่วง และอันตรายอย่างมาก

ด้านนายเดนิส พูชิลิน ซึ่งเป็นผู้นำกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนของสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์ทางตะวันออกของยูเครน สั่งให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวทำการอพยพไปยังรัสเซีย ท่ามกลางการถูกยิงโจมตีจากกองกำลังยูเครน

นายพูชิลิน กล่าวว่า รัสเซียได้ตกลงที่จะให้ที่พักอาศัยแก่ประชาชนแล้ว โดยผู้ที่เป็นเด็ก สตรี และคนชราควรรีบอพยพก่อน

ทั้งนี้ สาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์-ลูฮันสก์ตั้งอยู่ในภูมิภาคดอนบาสทางตะวันออกของยูเครน ซึ่งกลุ่มกบฎฝักใฝ่รัสเซียยึดครองอยู่

สื่อรายงานว่าเกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในดอนบาสและกองกำลังยูเครนเป็นวันที่ 2 ท่ามกลางความกังวลที่ว่ารัสเซียอาจใช้สถานการณ์ดังกล่าวเพื่อเป็นข้ออ้างในการโจมตียูเครน

นายไมเคิล คาร์เพนเตอร์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำองค์การความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (โอเอสซีอี) กล่าวว่า รัสเซียได้เพิ่มกำลังทหารสู่ระดับ 190,000 นายใกล้ชายแดนยูเครนในขณะนี้

"เราประเมินว่ารัสเซียมีกำลังทหารราว 169,000-190,000 นายใกล้ชายแดนยูเครน เมื่อเทียบกับราว 100,000 นายเมื่อวันที่ 30 ม.ค. ซึ่งถือเป็นการเคลื่อนกำลังทหารครั้งใหญ่ที่สุดในยุโรปของรัสเซียนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2" นายคาร์เพนเตอร์ กล่าว