ส่องความเหลื่อมล้ำสังคมยูเครนยุคบ้านเมืองระส่ำ

ส่องความเหลื่อมล้ำสังคมยูเครนยุคบ้านเมืองระส่ำ

ท่ามกลางกระแสข่าวว่ารัสเซียเตรียมบุกยูเครน ก็ปรากฏข่าวที่ทำให้มองเห็นภาพความเหลื่อมล้ำในสังคมยูเครนได้ชัดเจนนั่นคือข่าวบรรดาเศรษฐี พากันหนีออกนอกประเทศ เพราะกลัวว่าจะเกิดสงคราม ขณะเด็กๆชาวยูเครน ได้รับการสอนให้จับปืน เพื่อไว้ป้องกันตัวยามที่กองทัพรัสเซีย

“ยูคราอินสกา พราฟดา”(Ukrayinska Pravda)ซึ่งเป็นสื่อของยูเครน รายงานว่า บรรดาเศรษฐีที่วางรากฐานควบคุมระบบเศรษฐกิจและเครือข่ายการเมืองในยูเครน พากันหนีออกนอกประเทศ ทำให้มีเครื่องบินส่วนตัวและเครื่องบินเช่าเหมาลำประมาณ 20 เที่ยวเดินทางออกกรุงเคียฟเมืองหลวงของยูเครนภายในวันเดียว

พราฟดา ระบุด้วยว่าหนึ่งในเครื่องบินส่วนตัว ที่ออกจากน่านฟ้ายูเครนเมื่อวันอาทิตย์(13ก.พ.) เป็นของมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดของประเทศ คือรินาท อัคเมโทป( Rinat Akmetov) ที่นิตยสารฟอร์บส รายงานว่ามีทรัพย์สินราว 7,100 ล้านดอลลาร์ แต่เจ้าตัวออกนอกประเทศไปก่อนแล้วตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค. 

ส่วนวิคเตอร์ พินชุค(Victor Pinchuk) มหาเศรษฐีที่มั่งคั่งเป็นอับดับที่ 2 ก็เดินทางออกจากยูเครน ตั้งแต่สิ้นเดือนที่แล้วเช่นกัน

สื่อยูเครนยังเปิดเผยรายชื่อของ “ผู้หลบหนี” ออกจากยูเครน ในช่วงไม่กี่วันมานี้ ว่ารวมถึง วาดิม โนวินสกี(Vadym Novynskyi) นักการเมืองและนักธุรกิจที่มีทรัพย์สิน 1,300 ล้านดอลลาร์, มหาเศรษฐีอันดับที่ 9  โอเลกแซน ยาโรสลาฟสกี(Oleksandr Yaroslavsky)

อดีต ส.ส.เวอร์คอฟนา ราดา(Verkhovna Rada), นักธุรกิจ วาดิม สโตลาร์(Vadim Stolar )และเศรษฐีอีกหลายคนที่ติดโผ 100 อันดับบุคคลร่ำรวยที่สุดของโลกจากการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส
 

ตอนนี้ ส.ส.หลายคนของยูเครน ก็พยายามดิ้นรนจะออกจากประเทศ หลังจากพบว่าพวกเศรษฐีพากันขึ้นเครื่องบินส่วนตัวที่โดยสารได้ 50 ที่นั่ง ไปพำนักที่กรุงเวียนนาประเทศออสเตรีย

ส่วนสายการบินพาณิชย์หลายแห่งได้ยกเลิกหรือเปลี่ยนเที่ยวบินที่มีกำหนดเดินทางไปยังยูเครน ท่ามกลางความวิตกกังวลที่ว่ารัสเซียอาจบุกยูเครนในเร็ววันนี้

สายการบินเคแอลเอ็ม สัญชาติเนเธอร์แลนด์ได้ยกเลิกเที่ยวบินที่เดินทางไปยูเครนทั้งหมดจนกว่าจะมีประกาศเพิ่มเติม เนื่องจากเนเธอร์แลนด์มีความวิตกกังวลว่าอาจเกิดเหตุรุนแรงเหนือน่านฟ้ายูเครน หลังเมื่อปี 2557 เคยเกิดเหตุการณ์ที่กลุ่มกบฏซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัสเซียก่อเหตุยิงเครื่องบินของมาเลเซียในน่านฟ้ายูเครน ส่งผลให้ลูกเรือ 298 รายเสียชีวิตยกลำ โดยเป็นชาวเนเธอร์แลนด์ 198 ราย

ด้านสายการบินสกายอัพของยูเครน ก็ระบุเมื่อวันอาทิตย์(13 ก.พ.) ว่า เที่ยวบินจากเขตปกครองตนเองมาเดราของโปรตุเกสที่จะเดินทางมายังกรุงเคียฟ ถูกเปลี่ยนเที่ยวบินไปยังกรุงคีชีเนาของมอลโดวาแทน หลังจากที่มีคำสั่งห้ามเดินทางผ่านน่านฟ้าของยูเครน

เว็บไซต์แท็บลอยด์เดอะซันของอังกฤษ เผยแพร่คลิปวิดีโอที่น่าตกใจ ที่แสดงให้เห็นความเป็นจริงอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้น และการต่อต้านอย่างแน่วแน่ของชาวยูเครนต่อกองทัพของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ที่ดูเหมือนกำลังส่งสัญญาณเตือนว่า พร้อมเปิดฉากโจมตีได้ทุกเมื่อ 

สถานการณ์ดังกล่าวกระตุ้นให้ชาวยูเครนต้องหันมาจับอาวุธเพื่อปกป้องแผ่นดิน ทำให้เกิดกองทัพนักรบรุ่นเยาว์ ที่เข้าร่วมการฝึกทหารกับผู้ใหญ่ฝ่ายพลเรือน ดำเนินการโดยนักเคลื่อนไหวในกรุงเคียฟ ที่ประกาศว่า พลเรือนพร้อมสนับสนุนกองทัพในการต้านทานการบุกของทหารรัสเซีย 130,000 นาย

ชาวบ้านในยูเครน พากันใช้เงินไปกับการซื้อชุดทหารและกักตุนอาหารกระป๋อง กรณีที่ยูเครนถูกทหารรัสเซียปิดล้อม ขณะที่อีกหลายพันคนประกาศจับอาวุธปกป้องประเทศ ส่วนพวกเด็กๆ ก็ถูกสอนการใช้ปืน ซึ่งที่จริงพวกเขาได้รับการฝึกจากกองทัพยูเครนมาตั้งแต่เดือนม.ค. 

ด้านหนังสือพิมพ์แดร์ สปีเกล ของเยอรมนี รายงานอ้างข้อมูลข่าวกรองว่า รัสเซียจะบุกยูเครนวันพุธที่ 16 ก.พ.นี้ โดยหนึ่งในสิ่งที่บ่งชี้สัญญาณการบุกมากที่สุดคือ มีเฮลิคอปเตอร์ทหารหลายลำประจำการอยู่ใกล้กับพรมแดนยูเครน

นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลจากหน่วยสืบราชการลับ, สำนักข่าวกรองกลางของสหรัฐ (ซีไอเอ) และหน่วยข่าวกรองอื่นๆ ที่ไปไกลถึงโครงร่างเส้นทางที่ทหารรัสเซียแต่ละหน่วยจะใช้ เพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจที่ได้รับมอบหมาย และนับเป็นสถานการณ์ล่าสุด หลังการเจรจาทางโทรศัพท์ระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน กับประธานาธิบดีปูติน เดินมาถึงทางตัน แม้ประตูการเจรจารอบใหม่จะยังเปิดอยู่ก็ตาม