หุ้นโลกดิ่งหวั่นรัสเซียบุกยูเครน-คาดน้ำมันพุ่งถึง 125 ดอลลาร์

หุ้นโลกดิ่งหวั่นรัสเซียบุกยูเครน-คาดน้ำมันพุ่งถึง 125 ดอลลาร์

สถานการณ์ตลาดเอเชียเมื่อวันจันทร์ (14 ก.พ.) ตามรอยวอลล์สตรีท ราคาหุ้นร่วง ราคาน้ำมันพุ่งหลังสหรัฐเตือนว่ารัสเซียอาจบุกยูเครนภายในไม่กี่วันนี้ หลังจากความพยายามทางการทูตไม่ให้เกิดสงครามล้มเหลว

ตลาดหุ้นสหรัฐที่ดิ่งหนักไปแล้วเมื่อวันศุกร์ (11 ก.พ.) เนื่องจากมหาอำนาจเตรียมตัวรับมือความขัดแย้งในยุโรปตะวันออก สถานการณ์ยิ่งตึงเครียดช่วงสุดสัปดาห์ ส่งผลตลาดหุ้นเอเชียร่วงตามเมื่อวันจันทร์ ตลาดโตเกียวและมุมไบปิดลบกว่า 2% ฮ่องกง เซี่ยงไฮ้ โซล จาการ์ตา เวลลิงตันและไทเปปิดลบอย่างน้อย 1% สิงคโปร์ กรุงเทพฯ ปิดตลาดลดลงเช่นกัน มีแค่ตลาดหุ้นซิดนีย์และมะนิลาที่นั้นที่ปิดในแดนบวก

ตลาดหุ้นยุโรปวันจันทร์เปิดมาลบเช่นเดียวกับตลาดหุ้นเอเชีย ดัชนีเอฟทีเอสอีตลาดลอนดอนเปิดลบ 1.6% ดัชนีดีเอเอกซ์ตลาดแฟรงค์เฟิร์ตลดลง 2.7% ดัชนีซีเอซีตลาดปารีสดิ่งลง 2.9% 

 เอลิ ลี จากแบงก์ออฟสิงคโปร์เผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ความผันผวนที่ส่งผลต่อตลาดในปีนี้ยังคงดำเนินต่อไป หากมีปฏิบัติการทางทหารย่อมทำให้ราคาน้ำมันและก๊าซพุ่งขึ้นซ้ำเติมเงินเฟ้อในระยะสั้น  ส่งผลให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยงหันไปหาสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างเงินเยน ดอลลาร์สหรัฐ และทองคำ

ด้านน้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์สตลาดสิงคโปร์วานนี้เมื่อ 9.35 น.ตามเวลาประเทศไทย ซื้อขายกันที่ 95.56 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.12 ดอลลาร์ หรือ 1.2% อ่อนตัวลงจาก 96.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลซึ่งสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ต.ค.2557 ส่วนน้ำมันดิบดับเบิลยูทีไอเพิ่มขึ้น 1.28 ดอลลาร์ หรือ 1.4% สู่ระดับ 94.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ใกล้ระดับ94.94 ดอลลาร์ ซึ่งสูงสุดนับตั้งแต่ ก.ย.2557 ผลจากคำเตือนสะเทือนตลาดการเงินโลกของสหรัฐที่ว่า รัสเซียอาจบุกยูเครนเวลาใดก็ได้

เอ็ดเวิร์ด โมยา นักวิเคราะห์จากโออันดา กล่าวว่า ถ้ารัสเซียเคลื่อนทัพน้ำมันดิบเบรนท์ทะลุเหนือระดับ 100 ดอลลาร์แน่นอน
 

ราคาน้ำมันจะยังผันผวนและอ่อนไหวต่อสถานการณ์ยูเครนต่อไปอีก” นักวิเคราะห์ระบุ

ทั้งนี้ ความตึงเครียดดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากกลุ่มโอเปคและพันธมิตรในนามโอเปคพลัส พยายามเพิ่มการผลิตแม้ให้คำมั่นไว้ว่าจะเพิ่มวันละ 400,000 บาร์เรลไปจนถึงเดือน มี.ค.

ทบวงพลังงานระหว่างประเทศ (ไออีเอ) กล่าวว่า ช่องว่างระหว่างผลผลิตของโอเปคพลัสกับเป้าหมายที่วางไว้เพิ่มขึ้นเป็น 900,000 บาร์เรลต่อวันในเดือน ม.ค. ขณะที่เจพีมอร์แกนรายงานว่า เฉพาะช่องว่างของโอเปคอยู่ที่ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดย 7 ประเทศในกลุ่มโอเปค 10 ประเทศยังเพิ่มเพดานไม่ได้ตามโควตา ที่ทำไม่ได้มากที่สุดคืออิรัก ความเสี่ยงนี้อาจทำให้ราคาน้ำมันพุ่งไปถึง 125 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นวิเคราะห์ว่า ถ้าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียส่งรถถังบุกยูเครนจริงจะส่งแรงสั่นสะเทือนไปทั่วโลก ก่อให้เกิดวิกฤติด้านความมั่นคงแห่งชาติรุนแรงและอันตรายที่สุดครั้งหนึ่งนับตั้งแต่สงครามเย็น และแม้ไม่ใช่เป้าประสงค์โดยตรงปูตินอาจสร้างความเสียหายใหญ่หลวงต่อศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่ปีนี้สหรัฐมีเลือกตั้งกลางปี ส่วนคนอเมริกันต้องเจอราคาน้ำมันพุ่งสูงอีกซึ่งนี่คือดัชนีชี้วัดความไม่พอใจและมุมมองทางเศรษฐกิจของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง

ตามที่เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติทำเนียบขาว กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ (13 ก.พ.) ตามเวลาท้องถิ่นว่า รัสเซียที่เพิ่มกำลังทหารตามแนวชายแดนยูเครนมาหลายสัปดาห์อาจบุกยูเครนเมื่อใดก็ได้ เริ่มต้นจากการโจมตีด้วยระเบิดและขีปนาวุธยืดเยื้อ พลเรือนเสียชีวิตมหาศาล

ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า สหรัฐจะไม่ส่งทหารเข้าไปในยูเครนเนื่องจากไม่ใช่สมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ดังนั้นความขัดแย้งโดยตรงระหว่างทหารรัสเซียกับสหรัฐไม่มีทีท่าจะเกิดขึ้น แต่ประธานาธิบดีไบเดนสั่งทหารหลายพันนายลงไปรัฐสมาชิกนาโตเพื่อป้องปรามรัสเซีย เช่น โรมาเนียและโปแลนด์ อดีตพันธมิตรสหภาพโซเวียตที่ตอนนี้กลายเป็นสมาชิกนาโตไปแล้ว แน่นอนว่าประธานาธิบดีปูตินไม่พอใจอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม ถ้ารัสเซียบุกย่อมส่งผลเสียหายใหญ่หลวงในสหรัฐ ทั้งความเสuยหายทางเศรษฐกิจและผลการเลือกตั้งในเดือน พ.ย.ต่อพรรคเดโมแครต นอกจากนี้ถ้ารัสเซียบุกยูเครนราคาน้ำมันที่สูงอยู่แล้วจะสูงขึ้นอีกเท่ากับว่าผู้ใช้รถใช้ถนนในสหรัฐต้องจ่ายแพงขึ้น ซึ่งน้ำมันแพงส่งผลให้คะแนนนิยมต่อไบเดนลดลงก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีสหรัฐต้องพยายามไม่ให้ราคาสูงขึ้นอีก หลังตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐออกมาเมื่อสัปดาห์ก่อนเพิ่มขึ้น 7.5% ย่ำแย่สุดนับตั้งแต่ปี 2525 นอกจากนี้หากรัสเซียบุกยูเครนจริง ตลาดหุ้นจะผันผวนส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้มีสิทธิเลือกตั้งด้วย

ด้านเวดิม พริสเทโก เอกอัครราชทูตยูเครนประจำอังกฤษเผยกับสำนักข่าวบีบีซีว่า ยูเครนอาจยกเลิกคำขอเป็นสมาชิกนาโตเพื่อหลีกเลี่ยงสงครามกับรัสเซีย

ทั้งนี้ ยูเครนไม่ได้เป็นสมาชิกนาโตแต่ได้รับคำมั่นตั้งแต่ปี 2551 ว่าจะมีโอกาสเข้าร่วม ซึ่งถ้ายูเครนเป็นสมาชิกจริงย่อมทำให้นาโตเข้าไปจ่อชายแดนรัสเซีย ประธานาธิบดีปูตินกล่าวว่า สายสัมพันธ์ที่ยูเครนมีกับนาโตมากขึ้นอาจทำให้ยูเครนเป็นฐานยิงขีปนาวุธนาโตพุ่งเป้ามายังรัสเซีย รัสเซียจึงจำเป็นต้อง “ขีดเส้นตาย” ป้องกันไม่ให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม ทูตยูเครนชี้แจงในภายหลังว่ารายงานข่าวของบีบีซีเป็นความเข้าใจผิด ยูเครนยังมีจุดยืนเรื่องการเข้าไปสมาชิกนาโตเหมือนเดิม 

ขณะเดียวกันรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว “จี7” ออกแถลงการณ์สนับสนุนความพยายามป้องกันไม่ให้สถานการณ์บานปลาย แต่เตือนว่า หากรัสเซียเพิ่มปฏิบัติการทางทหาร จี7 พร้อมแล้วที่จะคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและการเงินร่วมกันซึ่งจะส่งผลต่อเศรษฐกิจรัสเซียอย่างมหาศาลทันที

ช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาโลกจับตารัสเซียเคลื่อนทหารกว่า 100,000 นายและอาวุธหนักเข้าไปในระยะโจมตียูเครนได้ ทำให้สหรัฐและพันธมิตรนาโตออกมาเตือนว่ารัสเซียอาจบุกยูเครนในวันใดวันหนึ่ง แต่รัฐบาลมอสโกปฏิเสธมาตลอด พร้อมแจ้งเจตจำนงค์เป็นลายลักษณ์อักษรไม่ให้นาโตขยายมาทางทิศตะวันออกรวมถึงในยูเครน แต่นาโตปฏิเสธ

ทำเนียบขาวเผยว่า ประธานาธิบดีไบเดนคุยกับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครนเมื่อวันอาทิตย์ (13 ก.พ.) เห็นชอบใช้ความพยายามทางการทูตแก้ไขวิกฤติต่อไป