เศรษฐกิจมาเลเซียกลับมาโตหลังเลิกมาตรการคุมโควิด

เศรษฐกิจมาเลเซียกลับมาโตหลังเลิกมาตรการคุมโควิด

เศรษฐกิจมาเลเซียกลับมาเติบโตได้ในไตรมาส 4 ปี 2564 อานิสงส์ยกเลิกมาตรการคุมโควิด กิจกรรมเศรษฐกิจดำเนินการได้อีกครั้ง

ธนาคารกลางมาเลเซียแถลงว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศช่วงเดือน ต.ค.-ธ.ค.ปีที่ผ่านมา เติบโต 3.6% จากที่เคยหดตัว 4.5% ในไตรมาสก่อนหน้าทั้งปี 2564 จีดีพีมาเลเซียขยายตัว 3.1% ฟื้นจากปี 2563 ที่หดตัวลง 5.6% ถือเป็นปีเลวร้ายที่สุดของเศรษฐกิจมาเลเซียนับตั้งแต่วิกฤติการเงินเอเชียในปี 2541

รัฐบาลแถลงว่า เศรษฐกิจปี 2564 ยังต่ำกว่าปี 2562 ก่อนโควิดระบาด แต่คาดว่าจะฟื้่นตัวอย่างต่อเนื่องตามความต้องการในประเทศและทั่วโลกที่ปรับตัวดีขึ้น ธนาคารกลางคาดการณ์จีดีพีปีนี้เติบโต 5.5%-6.5% แต่ยังมีความเสี่ยงขาลง หลักๆ มาจากพัฒนาการของโควิด-19ที่นางนอร์ ชามเซียห์ โมห์ด ยูนุส ผู้ว่าการธนาคารกลางระบุว่า อาจมีสายพันธุ์ที่น่ากังวลดื้อวัคซีนทำให้เกิดการติดเชื้อรุนแรงจนทั่วโลกและมาเลเซียต้องใช้มาตรการสกัดการระบาดอีกรอบ ทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจต้องชะงัก

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในมาเลเซียกลับมาสูงขึ้นอีกรอบช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาเนื่องจากสายพันธุ์โอมิครอนที่ติดต่อกันได้ง่าย แต่รัฐบาลให้คำมั่นว่าจะไม่ล็อกดาวน์อีกแล้วขณะเดียวกันก็เร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชน

ปัจจุบัน ประชากรมาเลเซียเกือบ 80% จาก 32 ล้านคนฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อยสองโดส กว่าหนึ่งในสามฉีดเข็มกระตุ้นแล้ว

เดือนก่อนธนาคารกลางมาเลเซียคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ 1.75% เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจให้ต่อเนื่อง

สำหรับปีนี้นางนอร์ ชามเซียห์คาดว่าเงินเฟ้อทั่วไปของประเทศจะคงอยู่ในระดับกลาง แต่ไม่คิดว่ามาเลเซียกำลังเจอสัญญาเงินเฟ้อสูงหรือเงินเฟ้อสูงกับเศรษฐกิจชะลอตัวเกิดขึ้นพร้อมกัน

“อย่างไรก็ตาม แนวโน้มเงินเฟ้อยังคงขึ้นอยู่กับพัฒนาการราคาสินค้าโภคภัณฑ์โลกล่าสุดและความเสี่ยงจากความชะงักงันอันเกี่ยวข้องกับอุปทาน” ผู้ว่าการธนาคารกลางมาเลเซียระบุ