ประชาชนมุ่งหน้ากลับบ้านตรุษจีนไม่หวั่นโควิด

ประชาชนมุ่งหน้ากลับบ้านตรุษจีนไม่หวั่นโควิด

ในบรรดาความปั่นป่วนทุกประการอันเป็นผลจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 การไม่สามารถเดินทางกลับบ้านได้ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ถือเป็นความเจ็บปวดมากที่สุดในประเทศจีนที่ควบคุมโควิดได้แล้วเป็นส่วนใหญ่

ในเวลาปกติช่วงเทศกาลตรุษจีนหรือเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ วันหยุดสำคัญที่สุดของแดนมังกร ชาวจีนหลายล้านคนทั้งแรงงานย้ายถิิ่น นักศึกษา หรือใครก็ตามที่ทำงานห่างจากบ้านเกิด ต้องแออัดกันบนรถบัส รถไฟ และเครื่องบินเพื่อเดินทางกลับบ้าน ถือเป็นการย้ายถิ่นประจำปีของมนุษย์ครั้งใหญ่สุดในโลก สำหรับคนงานหลายคนนี่เป็นเพียงโอกาสเดียวในหนึ่งปีที่พวกเขาได้พบกับสามี ภรรยา พ่อแม่ และลูกๆ

แต่การระบาดของโควิด-19 ที่ปรากฏขึ้นครั้งแรกในเมืองอู่ฮั่นเมื่อปลายปี 2562 ไม่นานก่อนการเดินทางตรุษจีนปี 2563 จะเข้มข้นขึ้น ทำให้ตรุษจีนปีนั้นกร่อยไปเลย การเดินทางช่วงตรุษจีนปี 2564 ก็ไม่ถึงครึ่งของระดับปกติเนื่องจากโควิดยังไม่หายไปไหน

ปีนี้ ทางการจีนขอร้องประชาชนอย่าเพิ่งเดินทางเพราะจีนกำลังโดนโควิดสายพันธุ์โอมิครอนเล่นงาน จนต้องออกมาตรการควบคุมเข้มงวดทั่วประเทศ ป้องกันไม่ให้การแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวปักกิ่ง ระหว่างวันที่ 4-20 ก.พ.กลายเป็นงานแพร่เชื้อ (superspreader)

รัฐบาลท้องถิ่นบางมณฑลขอกันตรงๆ ไม่ให้ประชาชนไปไหน เขตการผลิตชายฝั่งให้เงินพิเศษแก่คนงานขอให้ไม่ต้องเดินทาง บ้างก็สกัดด้วยการกำหนดให้ต้องตรวจโควิดรวมถึงมาตรการอื่นๆ แต่ใช่ว่าประชาชนทุกคนจะเชื่อฟัง

เมื่อปีเสือจะมาถึงในเช้าตรู่วันอังคาร (1 ก.พ.) นี้แล้ว รายงานข่าวหลายสำนักระบุว่า ยอดจองการเดินทางฟื้นตัวแล้วในปีนี้ สัปดาห์ที่ผ่านมาสถานีรถไฟเซี่ยงไฮ้มีนักเดินทางคึกคักวันละหลายหมื่นคน

สถานการณ์เช่นนี้ก่อให้เกิดภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกสำหรับรัฐบาลจีนที่มักกังวลกลัวจะเกิดความไม่สงบทางสังคมในหมู่ประชากรจำนวนมหาศาล และจำเป็นต้องสร้างสมดุลระหว่างความปลอดภัยกับการกลับบ้าน

ในการแถลงข่าวโควิดตามปกติเมื่อวันเสาร์ (29 ม.ค.) คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (เอ็นเอชซี) วิจารณ์การใช้มาตรการคุมโควิดอย่างรุนแรงเกินเหตุของรัฐบาลท้องถิ่น

“บางที่ยังไม่อนุญาตให้ประชาชนจากพื้นที่เสี่ยงต่ำกลับบ้านเกิด บังคับให้พวกเขาต้องกักตัวในศูนย์ของรัฐ ทำให้สาธารณชนตอบโต้รุนแรง” นายหมี่ เฟิ่ง โฆษกเอ็นเอชซีกล่าวและว่าเอ็นเอชซีขอให้ทางการท้องถิ่นอย่างบังคับไม่ให้ประชาชนกลับบ้าน “เพื่อให้ประชาชนมีความสุขสงบ สุขภาพดีในเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ” โฆษกย้ำ

อย่างไรก็ตาม สำหรับหลายคนในกรุงปักกิ่ง นี่ยังเป็นตรุษจีนที่ต้องคิดถึงบ้านอีกหนึ่งปี เนื่องจากโอลิมปิกฤดูหนาวกำลังจะมาถึง พลเมืองในกรุงปักกิ่งต้องเจอแรงกดดันสูงสุดไม่ให้ออกไปไหน หากออกไปแล้วก็ไม่แน่ใจว่าจะกลับมาได้หรือไม่เพราะเมืองหลวงคุมเข้ม

“เราจะอยู่ในปักกิ่งช่วงวันหยุดเพราะกลัวว่าไปแล้วกลับเข้ามาไม่ได้ถ้ามีโควิดในบ้านเกิดของเรา แน่นอนปู่ย่าตายายอยากเจอลูกๆ หลานๆ ในวันปีใหม่ แต่เราค่อยไปหลังวันหยุดก็แล้วกัน” โจแอนนา เฟิ่ง สถาปนิกชาวอู่ฮั่นกล่าว

สัปดาห์ก่อนโฆษกซีทริป เว็บไซต์ของการเดินทางท่องเที่ยวชั้นนำของจีนเผยข้อมูลของบริษัทชี้ว่า การพักผ่อนแบบไม่ไหน (สเตย์เคชัน) และการเดินทางระยะสั้นถูกจองมากที่สุดในปีนี้ แตกต่างจากปีปกติที่คลื่นมนุษย์เคยหลั่งไหลไปทุกจุดทั่วประเทศจีน

แต่สำหรับหวง จินหนัน คนงานวัย 18 ปีในเซี่ยงไฮ้ ถึงเวลาพอกันที ปีก่อนเขาไม่ได้กลับบ้านที่มณฑลเหอหนาน จึงไม่อยากให้ปีนี้เป็นตรุษจีนที่ไม่ได้พบหน้ายายที่รักหรือเสี่ยงเดินทางไปที่อื่น

“ปีนี้ผมต้องกลับบ้านเพราะไม่มีที่อื่นให้ไปแล้ว” หวงกล่าว เช่นเดียวกับเจิ้น ไห่หนาน ครูวัย 30 ปีในเซี่ยงไฮ้ที่ไม่ได้กับบ้านเกิดพบครอบครัวช่วงตรุษจีนมาสองปีแล้ว ปีนี้อะไรก็หยุดไม่อยู่แม้ต้องตรวจเนื้อเยื่อจากจมูกและช่องคอรวม 5 ครั้งในการเดินทางไปกลับบ้านเกิดในมณฑลเจ้อเจียงทางภาคตะวันออกของประเทศ

“ดิฉันไม่ได้วางแผนจะกลับบ้านในปีนี้ แต่มาคิดๆ ดู ดิฉันไม่ได้กลับบ้านมาสองปีแล้ว เลยตัดสินใจว่าปีนี้ต้องกลับให้ได้ไม่ว่าจะมีอุปสรรคอะไรก็ตาม” เฉินกล่าวที่สถานีรถไฟเซี่ยงไฮ้ เธอพร้อมแล้วที่จะเดินทางสู่มาตุภูมิ