ราคาทองฟิวเจอร์ดิ่ง 36.60 ดอลล์วิตกเฟดขึ้นดอกเบี้ย

ราคาทองฟิวเจอร์ดิ่ง 36.60 ดอลล์วิตกเฟดขึ้นดอกเบี้ย

ราคาทองฟิวเจอร์ ปิดวันพฤหัสบดี (27ม.ค.)ดิ่งลง 36.60 ดอลลาร์ โดยปรับตัวลงต่อเนื่องจากวานนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

นอกจากนี้ นักลงทุนได้เทขายทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังเศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวสูงกว่าคาดในไตรมาส 4/64

สัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ส่งมอบเดือนก.พ. ร่วงลง  36.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,793.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ขณะนี้ราคาทองดิ่งลงเกือบ 3% หลังจากที่พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 สัปดาห์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 4/2564 ในวันนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัว 6.9% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 5.5%

ทั้งนี้ เศรษฐกิจสหรัฐได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค รวมทั้งการที่ภาคธุรกิจเพิ่มเติมสต็อกสินค้าคงคลัง

ก่อนหน้านี้ เศรษฐกิจกิจสหรัฐเติบโต 6.3% ในไตรมาส 1 และ 6.7% ในไตรมาส 2 ก่อนที่จะชะลอตัวสู่ 2.3% ในไตรมาส 3 เนื่องจากการขาดแคลนวัตถุดิบในภาคการผลิต ซึ่งกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน ทำให้ยอดขายรถยนต์ และตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภคลดลง

เมื่อพิจารณาทั้งปี 2564 เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัว 5.7% ซึ่งเป็นตัวเลขสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2527 หลังจากที่หดตัว 3.4% ในปี 2563 ซึ่งเป็นการหดตัวรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2489 โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

ราคาทองยังถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ขานรับผลการประชุมเฟดวานนี้ โดยดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นจะทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น

นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวว่า เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

ก่อนหน้านี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 7.0% ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 40 ปี

ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังคงจับตาความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและรัสเซียในกรณียูเครน

ทำเนียบเครมลินแถลงในวันนี้ว่า รัสเซียและสหรัฐยังคงมีช่องทางในการเจรจาต่อไป แต่เห็นได้ชัดว่าข้อเรียกร้องด้านความมั่นคงของรัสเซียไม่ได้รับการตอบสนองจากทางสหรัฐ

ทั้งนี้ รัสเซียยื่นข้อเรียกร้องต่อสหรัฐและชาติตะวันตกเพื่อให้มีการรับประกันว่า องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) จะไม่รับยูเครนและประเทศซึ่งเคยอยู่ในอดีตสหภาพโซเวียตเข้าเป็นสมาชิก

ขณะที่สหรัฐและพันธมิตรจะต้องถอนกำลังทหารออกจากกลุ่มประเทศอดีตสหภาพโซเวียต

"เมื่อพิจารณาจากหนังสือตอบกลับจากทางสหรัฐ เราไม่สามารถกล่าวได้ว่าความวิตกกังวลของเราได้รับการตอบสนอง" นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลินกล่าว

อย่างไรก็ดี นายเพสคอฟกล่าวว่า รัสเซียจะยังไม่เร่งด่วนทำการสรุปใดๆ หลังจากได้รับคำตอบจากทางสหรัฐเมื่อวานนี้ โดยรัสเซียจะใช้เวลาระยะหนึ่งในการพิจารณาท่าทีตอบโต้สหรัฐ