ดาวโจนส์ร่วง 129 จุด หลังเฟดเผยถ้อยแถลงปิดการประชุมเอฟโอเอ็มซี

ดาวโจนส์ร่วง 129 จุด หลังเฟดเผยถ้อยแถลงปิดการประชุมเอฟโอเอ็มซี

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันพุธ (26ม.ค.)ปรับตัวร่วงลง 129 จุด ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน แกว่งตัวไปมา ก่อนจะปิดผสมผสาน หลังจากเฟดเผยแพร่ถ้อยแถลงปิดการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 129.64 จุด หรือ 0.38%  ปิดที่ 34,168.09 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 6.52 จุด หรือ 0.15% ปิดที่ 4,349.93 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 2.82 จุด หรือ 0.02% ปิดที่ 13,542.12 จุด

คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (เอฟโอเอ็มซี) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ในการคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% ในการประชุมวันนี้

ขณะเดียวกัน แถลงการณ์ของเฟดระบุว่า "เนื่องจากเงินเฟ้อดีดตัวเหนือระดับ 2% และตลาดแรงงานอยู่ในภาวะแข็งแกร่ง เอฟโอเอ็มซีจึงคาดว่าเป็นการเหมาะสมที่จะปรับขึ้นเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในไม่ช้า"

แม้แถลงการณ์ดังกล่าวไม่ได้ระบุกำหนดเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างชัดเจน แต่ก็เป็นการส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้ โดยจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2561

ส่วนราคาหุ้นไมโครซอฟท์พุ่งขึ้นกว่า 4% ในการซื้อขายวันนี้ หลังการเปิดเผยผลประกอบการสูงกว่าที่คาดไว้ ส่วนราคาหุ้นอินเทลดีดตัวกว่า 2% ขานรับชัยชนะครั้งใหญ่ หลังจากต่อสู้ยาวนานถึง 12 ปี โดยศาลยุโรปประกาศให้คำตัดสินของคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ที่สั่งปรับอินเทลก่อนหน้านี้ถือเป็นโมฆะ

ทั้งนี้  อีซี ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป (อียู) สั่งปรับอินเทลเป็นเงินจำนวน 1.06 พันล้านยูโร (1.2 พันล้านดอลลาร์) หรือเกือบ 40,000 ล้านบาทในปี 2552 โดยระบุว่าอินเทลขัดขวางการแข่งขันในตลาดไมโครชิป ด้วยการกดดันให้บริษัทเอเอ็มดี ซึ่งเป็นคู่แข่ง ต้องออกจากตลาด

ราคาหุ้นโบอิ้งดิ่งลงกว่า 2% หลังเปิดเผยตัวเลขขาดทุนมากกว่าคาดในไตรมาส 4/64 โดยได้รับผลกระทบจากการรับรู้ค่าใช้จ่ายก่อนหักภาษีวงเงิน 3.5 พันล้านดอลลาร์ของเครื่องบินรุ่น 787 ดรีมไลเนอร์ส ขณะที่ปัญหาด้านการผลิตทำให้บริษัทต้องชะลอการส่งมอบเครื่องบินรุ่นดังกล่าว