โรคระบาดยุคใหม่ เสพติดคริปโทเคอร์เรนซี

โรคระบาดยุคใหม่ เสพติดคริปโทเคอร์เรนซี

คริปโทเคอร์เรนซีเป็นเรื่องของปัจจุบันไม่ใช่การเงินแห่งอนาคตอีกต่อไป เพราะทุกวันนี้มีคนซื้อขายเงินเสมือนมากขึ้นทุกที โดยเฉพาะคนหนุ่มสาวผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยี

เรื่องราวของแมตต์ แดนซิโก ดีไซเนอร์และนักข่าวออนไลน์ในบาร์เซโลนาของสเปน ที่เคยหลงใหลในเงินเสมือนอย่างหนัก น่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับหลายๆ คนในยุคนี้

 สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า แดนซิโกเริ่มต้นจากได้เห็นโลโกคริปโทเคอร์เรนซีบนถุงของชำ จากนั้นก็ร่วมกระแสซื้อขายเงินดิจิทัลในช่วงที่โควิด-19 ระบาดแล้วเกิดอาการหลงใหลอย่างรวดเร็ว ตกกลางคืนนอนไม่หลับ ปิดตาก็เห็นแต่เส้นกราฟในสมอง “ผมคิดว่าผมเสียสติไปแล้ว” เจ้าตัวยอมรับ

อย่างที่ทราบกันดีว่าคริปโทฯ อย่างบิตคอยน์หรืออีเทอเรียมขึ้นชื่อเรื่องราคาผันผวน ดีไซเนอร์วัย 39 ปีรายนี้เจอเหตุการณ์เงินที่เก็บมานานหลายปีหายไปในพริบตา อารมณ์ของเขาขึ้นๆ ลงๆ ยิ่งกว่ารถไฟเหาะ ยิ่งมาถูกล็อกดาวน์เพราะโควิด-19 ระบาดยิ่งไปกันใหญ่ จนภรรยาสังเกตว่าแดนซิโกมีอาการเครียดและเกรี้ยวกราด เขาไม่ยอมบอกว่าหมดเงินไปเท่าไหร่ กล่าวเพียงว่าสมุดบัญชีธนาคารเสียหายมาก

สำหรับแดนซิโกนับว่าโชคดีที่รู้ตัวเร็วและหายจากอาการเสพติดได้เร็ว แต่ในเมื่อคริปโทฯ กำลังเติบโตจากความสนใจเฉพาะกลุ่มมาสู่การเงินกระแสหลักมากขึ้น ประสบการณ์เลวร้ายของผู้คนทั่วโลกต่อการเสพติดคริปโทฯ ยิ่งถูกเผยออกมามากขึ้น แดนซิโกชี้ว่า ตอนนี้มีคนซื้อขายคริปโทฯ กันหลายล้านคนถ้าคนแค่เศษเสี้ยวถูกหลอกนั่นย่อมหมายถึงวิกฤติสุขภาพจิตครั้งมหึมาอย่างที่โลกไม่เคยเจอมาก่อน

ส่วนศูนย์รวมคนจิตตกเพราะคริปโทฯ ก็หนีไม่พ้นทวิตเตอร์ อย่างเช่นเมื่อเดือน ก.ย. เรื่องราวชายชาวเช็กที่ชีวิตต้องเจอหายนะเพราะหวังรวยจากคริปโทฯ กลายเป็นไวรัลบนทวิตเตอร์

เมื่อเห็นประสบการณ์ของตนเองและของคนอื่นบนโลกออนไลน์ แดนซิโกจึงเริ่มค้นคว้าเรื่องการเสพติดคริปโทฯ แล้วเขียนบนความบนเว็บไซต์ข่าว “คอยน์เทเลกราฟ” เขาพบว่ามีการศึกษาขนาดเล็กเกี่ยวกับการเสพติดคริปโทฯ ในตุรกี นักบำบัดมืออาชีพจากไทยถึงสหรัฐมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น

ผู้เชี่ยวชาญมองว่า ปรากฏการณ์นี้เป็นการติดพนันรูปแบบหนึ่ง คล้ายๆ กับนักลงทุนในวอลล์สตรีทที่คุมการลงทุนไม่ได้

แคสเทิลเครก คลินิกบำบัดในสกอตแลนด์เรียการเสพติดคริปโทฯ ว่า “โรคระบาดยุคใหม่” เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในผู้ชาย แต่อาจเป็นเพราะว่าผู้หญิงซื้อขายคริปโทฯ น้อยกว่า

แดนซิโกเลิกนิสัยเสพติดคริปโทฯ ด้วยการหันไปสนใจการถ่ายภาพ ใช้โปรเจคเตอร์สร้างภาพและโลโก้คริปโทฉายไปทุกที่รอบตัว ตอนนี้เขาขายเอ็นเอฟทีรับชำระด้วยอีเทอเรียม วิธีนี้ช่วยให้แดนซิโกก้าวผ่านอดีตไปได้ ตอนนี้เขายังคงถือสินทรัพย์ดิจิทัลจำนวนหนึ่งและเชื่อว่าการเงินแบบกระจายศูนย์คืออนาคตที่สดใส แต่ก็อยากให้สังคมเผชิญกับ “วิกฤติสุขภาพจิตครั้งมโหฬาร” ด้วย โดยเขายกตัวอย่างให้เห็นภาพ “คุณมีลูกที่อยู่ดีๆ เขาก็เป็นมหาเศรษฐีจากห้องใต้ดินของพ่อแม่ แล้วก็สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไปก่อนรับประทานอาหารเย็นกัน สิ่งที่เราทำได้คือต้องเริ่มคุยกันเรื่องพวกนี้ได้แล้ว” 

เรื่องราวของดีไซเนอร์รายนี้่เป็นเพียงหนึ่งตัวอย่างจากคนที่เคยต่อสู้ในสมรภูมิคริปโทเคอร์เรนซีและเจ็บปวดมาแล้ว จึงถือเป็นอุทธาหรณ์ที่ไม่ควรมองข้าม