ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสพักฐานร่วง 56เซนต์

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสพักฐานร่วง 56เซนต์

ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าปิดวันศุกร์(7ม.ค.) ร่วงลง 56 เซนต์ หลังจากพุ่งทะลุระดับ 80 ดอลลาร์เมื่อวันพฤหัสบดี(6ม.ค.) แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2564 โดยได้แรงหนุนจากปัญหาความไม่สงบในคาซัคสถาน และการผลิตน้ำมันที่ลดลงในลิเบีย

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส  ส่งมอบเดือนก.พ. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ลบ  56 เซนต์ หรือ 0.7%  ปิดที่ราคา 78.90 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ร่วงลง 24 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 81.75 ดอลลาร์/บาร์เรล

ราคาน้ำมันพุ่งกว่า 6% ในสัปดาห์นี้ โดยได้ปัจจัยหนุนจากความกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมัน แม้มีความวิตกว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนอาจกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน

รัสเซียได้ส่งทหารพลร่มเข้าไปยังคาซัคสถานเพื่อช่วยรักษาความสงบ หลังจากเกิดความรุนแรงทั่วประเทศจากการที่ประชาชนพากันลุกฮือประท้วงน้ำมันแพง จนทำให้รัฐบาลต้องประกาศลาออก

ทั้งนี้ คาซัคสถานเป็นประเทศที่อุดมไปด้วยน้ำมัน และเป็นสมาชิกของกลุ่มโอเปกพลัส

อย่างไรก็ดี ยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าความไม่สงบในคาซัคสถานได้ส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมัน ซึ่งที่ผ่านมาสามารถผลิตน้ำมันได้วันละ 1.6 ล้านบาร์เรล

ส่วนการผลิตน้ำมันในลิเบียลดลงมากกว่า 500,000 บาร์เรล/วัน เนื่องจากมีการปิดบ่อน้ำมันหลายแห่ง รวมทั้งมีการปิดซ่อมบำรุงท่อส่งน้ำมัน

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยหนุนจากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติยึดมั่นตามข้อตกลงเดิมในการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 400,000 บาร์เรล/วันในเดือนก.พ. แม้ว่าสหรัฐและชาติพันธมิตรต่างกดดันให้โอเปกพลัสเพิ่มกำลังการผลิตมากกว่านี้ เพื่อชะลอการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน

ก่อนหน้านี้ โอเปกพลัสมีมติในเดือนก.ค.2564 ในการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 400,000 บาร์เรล/วันในแต่ละเดือน จนถึงเดือนเม.ย.2565

โอเปกพลัสจะจัดการประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 2 ก.พ.เพื่อพิจารณานโยบายการผลิตสำหรับเดือนมี.ค.