‘เสียมราฐ’ เปิดเขตท่องเที่ยวพิเศษรับ นทท.สายมู

“ซก ซกกรัดทะยา” ที่ปรึกษาส่วนตัวของนายกรัฐมนตรีฮุน เซน และรัฐมนตรีช่วยกระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชา ให้สัมภาษณ์กรุงเทพธุรกิจว่า รัฐบาลกัมพูชาได้จัดตั้งเสียมราฐเป็นเขตการท่องเที่ยวพิเศษ นำจุดเด่นของเสียมราฐมหานครศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งปราสาทนครวัด และปราสาทหินโบราณหลายสิบแห่ง

รวมถึงมีเรื่องเล่าลี้ลับในดินแดนแห่งนี้มานานหลายพันปี นำมาออกแบบเป็นการท่องเที่ยวสายวัฒนธรรม และจิตนิยมโดยเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวแล้วเมื่อวันที่ 1 ม.ค.2565

 

เสียมราฐ ดินแดนอาณาจักรขอม ปัจจุบันได้ทำการอนุรักษ์องค์ปราสาท โบราณสถานในพื้นที่  พัฒนาถนนหนทางซึ่งมีเลนจักรยานทั้งในตัวเมืองและภายในโบราณสถานสำคัญต่างๆ ขณะเดียวกันได้วางโครงสร้างบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมพร้อมรับนักท่องเที่ยวทุกระดับ และยังปรับปรุงแลนด์สเคปเตรียมตัวไปสู่เสียมราฐสมาร์ทซิตี้ ในอนาคต 

นับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 กัมพูชาได้ปิดประเทศนานนับปี ซึ่งนายกรัฐมนตรีฮุน เซนเพิ่งประกาศเปิดประเทศเมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2564 โดยอนุญาตให้ผู้ที่เดินทางเข้ากัมพูชาโดยได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม แล้วและมีผลตรวจโควิดเป็นลบในช่วง 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง จะได้รับอนุญาตให้เดินทางทั่วราชอาณาจักรกัมพูชาโดยไม่ต้องกักตัว

ตามมาตรการที่กำหนดใช้มานานกว่า 18 เดือน โดยส่วนตัวยืนยันว่า การท่องเที่ยวในประเทศกัมพูชามีความปลอดภัยจากโควิด เพราะรัฐบาลให้ความสำคัญกับมาตรการควบคุมโควิดที่เข้มงวด และมีชาวกัมพูชาฉีดครบโดสแล้วกว่า 81% ของประชากรทั้งประเทศ

ปีที่แล้ว รายได้การท่องเที่ยวกัมพูชาส่วนใหญ่มาจากประชาชนในประเทศ ขณะที่มีนักท่องเที่ยวจากต่างชาติประมาณ 5,000 คน ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชาตั้งเป้าหมายไว้ว่าหลังยุคโควิด-19 จะมีนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเฉพาะที่เสียมราฐประมาณ 20 ล้านคน ในระยะ 12 ปี

 

 

ซกกรัดทะยา เล่าว่า กัมพูชากำลังสร้างสนามบินเสียมราฐอังกอร์แห่งใหม่ อยู่ห่างจากตัวเมืองเสียมราฐทางตะวันออกเฉียงใต้ ราว 51 กิโลเมตร คาดจะแล้วเสร็จปี 2566 ซึ่งจะสามารถรองรับผู้โดยสารราว 7 - 15 ล้านคน

ในบริเวณพื้นที่ระหว่างสนามบินแห่งใหม่กับเมืองเก่า รัฐบาลกัมพูชาประกาศให้เป็นเขตท่องเที่ยวพิเศษเสียมราฐ ขณะนี้จัดทำมาสเตอร์แพลนเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะประกอบด้วย

- หมู่บ้านหมอดู

- แหล่งอาบน้ำมนต์ออนเซ็น

- สตาร์ทอัพสมุนไพร

- แหล่งเช่าวัตถุบูชาและของขลัง

-สักยันต์โดยอาจารย์ชื่อดัง 

-แหล่งช้อปปิ้งสินค้า

-ศูนย์คอมเพล็กซ์มีโรงแรมที่พัก

-อาคารธุรกิจสูงมากกว่า 4 ชั้น (กฎหมายกัมพูชาไม่อนุญาตก่อสร้างตึกสูงในพื้นที่โบราณสถานเกิน 4 ชั้น) 

ส่วนออนเซ็นน้ำมนต์ที่มาจากธารน้ำบนยอดเขาพนมกุเลน ถือเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์และเคยเป็นเมืองหลวงในสมัยของพระชัยวรมันที่ 2 ก่อนที่จะสร้างปราสาทนครวัด ซึ่งปัจุบันรัฐบาลกัมพูชาได้นำน้ำจากพนมกุเลนมาใช้ประกอบพิธีสาบานตนของนักการเมือง สมาชิกสภาผู้แทยราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา 
 

“ในความเชื่อและศรัทธาที่มีต่อภูเขาพนมกุเลน เราได้ออกแบบดีไซน์ให้เป็นการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพในลักษณะออนเซ็นน้ำมนต์ ให้อารมณ์คล้ายๆกับออนเซ็นน้ำแร่ของญี่ปุ่นและเกาหลี แต่ของกัมพูชาช่วยเสริมมงคลชีวิต” ซกกรัดทะยาเล่า

รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชา กล่าวว่า ในช่วงเดือน ม.ค. - เม.ย.นี้ จะเปิดตัวโปรเจคการท่องเที่ยวใหม่ๆ เช่น หมู่บ้านหมอดูแบบทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นโหราศาสตร์ ดาราศาสตร์  คำนวณดวงชะตา ไพ่ยิปซี ลายมือและเข้าทรง

 

 

สิ่งเหล่านี้จะเป็นกิจกรรมหนึ่งในการตามรอยเส้นทางการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและจิตนิยม ที่อยู่ในแพ็คเก็จทัวร์ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเลือกได้ว่า จะไปหมู่บ้านหมอดูหรือกราบไหว้พระพุทธรูปเก่าแก่ ทั้งหมดนี้เพื่อเสริมสร้างสิริมงคลให้กับผู้มาเยือนเสียมราฐซึ่งเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์หลายพันปี 

เมื่อถามถึงบรรยากาศการท่องเที่ยวสีหนุวิลล์ในช่วงการระบาดโควิด-19 ซกกรัดทะยาเล่าวว่า สีหนุวิลล์ยังคงความเป็นกาสิโนระดับ 5 ดาว มีสิ่งสาธารณูปโภคครบครัน เป็นสถานที่กิน นอน เที่ยว เล่นได้ในจุดเดียว เหมือนกับกาสิโนลาสเวกัส แต่จะเทียบกับกาสิโนที่ปอยเปตก็ถือเป็นอดีตไปแล้ว โดยซกกรัดทะยา บอกว่า ถ้าอยากไปเที่ยวกาสิโน ส่วนตัวแนะนำให้ไปสีหนุวิลล์จะได้เที่ยวทะเล และธรรมชาติรอบๆ เกาะด้วย 

 

 

"หากแต่วันนี้ กัมพูชายังมีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวที่ไม่รู้จบ และที่ผ่านมายังถูกนำมาใช้ไม่หมด โดยเฉพาะจุดเด่นของนครวัด ที่มีอายุกว่า 1 พันปีและมีเรื่องเล่าน่าค้นหา พร้อมถ่ายทอดคุณค่าทางประวัติศาสตร์ให้กับคนรุ่นหลัง" ซกกรัดทะยากล่าว และว่า นี่เป็นการปฏิรูปอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกัมพูชาควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ให้มีความร่วมสมัย เพราะเราอยากให้โลกรู้ว่า กัมพูชาไม่มีแค่การท่องเที่ยวกาสิโน แต่ยังมีเส้นทางการท่องเที่ยวที่ช่วยเสริมสิริมงคลให้กับชีวิตอีกด้วย 

รัฐมนตรีช่วยกระทรวงท่องเที่ยวกัมพูชา กล่าวในตอนท้ายว่า ขณะนี้กำลังศึกษาการออกบัตรสมาชิกท่องเที่ยวในเสียมราฐ ซึ่งคล้ายๆกับไทยแลนด์อีลิทการ์ด แต่กัมพูชาเป็นระบบคริปโทเคอร์เรนซี่มีมูลค่าในตัวเอง และสามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินได้ เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถใช้จ่ายผ่านบล็อกเชน โดยโมเดลนี้จะขยายไปยังเมืองท่องเที่ยวๆ ทั่วกัมพูชา