ระบบบาร์เตอร์ทางเลือกชาวซีอานยุคล็อกดาวน์

ระบบบาร์เตอร์ทางเลือกชาวซีอานยุคล็อกดาวน์

พลเมืองในเมืองซีอาน มลฑลส่านซี ซึ่งอยู่ในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีนที่ทางการประกาศล็กดาวน์ตั้งแต่วันที่ 23 ธ.ค.ปี2564 กำลังเจอปัญหาขาดแคลนอาหารรุนแรงขั้นวิกฤต

พลเมืองชาวซีอานบางคนที่อยู่ภายใต้การกักตัวพยายามใช้วิธีนำของใช้ที่มีอยู่มาแลกกับอาหารตลอดช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ขณะที่พลเมืองส่วนใหญ่เริ่มวิตกกังวลกันมากขึ้นว่าจะเจอปัญหาขาดแคลนอาหารรุนแรงกว่านี้

มาตรการล็อกดาวน์เมืองซีอาน ที่ส่งผลกระทบต่อประชากร 13 ล้านคนในเมืองนี้ ครอบคลุมถึงการห้ามชาวเมืองออกนอกเคหสถานหากไม่มีความจำเป็นทางการแพทย์ และสมาชิกเพียง 1 คนของแต่ละครอบครัวเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาตให้ออกจากบ้านเพื่อซื้อของกิน-ของใช้จำเป็นทุกๆ 2 วัน ทั้งยังระงับบริการขนส่งมวลชนทั้งหมด และยังไม่มีกำหนดว่าจะคลายล็อกดาวน์ซีอานเมื่อไหร่

ในสื่อโซเชียลช่วงสองสามวันมานี้ มีชาวซีอานโพสต์ร้องทุกข์เกี่ยวกับปัญหาอาหารไม่เพียงพอ แม้ทางการจะแจกอาหารฟรีแก่ทุกครัวเรือนแต่บางคนก็บอกว่าอาหารหมดในเวลาอันรวดเร็วและทำให้ไม่ได้รับความช่วยเหลือด้านอาหารที่ทางการจัดให้ 

ขณะที่มีการโพสต์คลิปวิดีโอและภาพถ่ายบนเว่ยโป๋ เว็บไซต์สื่อสังคมออนไลน์ของจีน เป็นภาพชาวเมืองนำน้ำยาล้างจานมาแลกกับแอ๊ปเปิ้ล นำผ้าอนามัยมาแลกกับผักประเภทต่างๆ

“ผู้คนพากันแลกเปลี่ยนสิ่งของกับอาหารที่จำเป็นในตึกเดียวกันเพราะพวกเขาไม่มีอาหารที่จะรับประทานอย่างเพียงพอ”ชาวเมืองซีอานคนหนึ่งที่บอกแค่ว่านามสกุลหวัง กล่าวแก่เรดิโอ เอเชีย ขณะที่มีรายงานว่า มีชายคนหนึ่งในเมืองนี้ต้องการนำสมาร์ทโฟนและแทบเล็ตมาแลกกับข้าว  

ด้านคณะกรรมาธิการสาธารณสุขแห่งชาติ ( เอ็นเอชซี ) รายงานเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เมืองซีอาน เมืองเอกของมณฑลส่านซี ว่า มาตรการตรวจคัดกรองประชาชนซ้ำหลายรอบ และมาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวด กำลังส่งสัญญาณบวกแต่ยังคงต้องสังเกตการณ์อีกสักระยะ เพื่อประเมินสถานการณ์และปรับเปลี่ยนรูปแบบของมาตรการให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์

สถิติผู้ติดเชื้อเฉพาะที่เมืองซีอาน นับจนถึงวันอาทิตย์ (2ม.ค.) อยู่ที่ 122 คน ต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา และลดลงจากสถิติ 174 คน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

ขณะที่ผู้ใช้เว่ยโป๋คนหนึ่งบอกว่า ผู้คนที่สิ้นหวังและช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ดำเนินมาถึงยุคของการแลกเปลี่ยนสิ่งของ เช่นนำมันฝรั่งมาแลกกับสำลีก้านที่มีไว้ซับสารคัดหลั่ง ขณะที่คนอื่นๆมองว่าตอนนี้สังคมจีนหวนกลับไปสู่สังคมแบบดั้งเดิม

อย่างไรก็ตาม ชาวเมืองบางคนมองแง่ดีและแสดงความเห็นในสื่อโซเชียลในแนวรู้สึกซาบซึ้งใจที่ได้รับน้ำใจแบ่งปันของใช้และอาหารจากเพื่อนบ้านในช่วงที่เมืองทั้งเมืองถูกล็อกดาวน์

ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในจีน ล่าสุด วานนี้  (4 ม.ค.)ประชาชนราว 1.17 ล้านคนในเมืองหยูโจว มณฑลเหอหนานของจีน ต้องกักตัวเองอยู่แต่ในบ้าน ตามคำสั่งของทางการท้องถิ่นที่ออกประกาศตั้งแต่คืนวันก่อนหน้าว่าให้ประชาชนทุกคนอยู่แต่ในบ้าน เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลังจากเมื่อ 2-3 วันก่อนมีการพบผู้ติดเชื้อโควิดแต่ไม่แสดงอาการจำนวน 3 รายในเมืองนี้

ถือเป็นการล็อกดาวน์เมืองครั้งใหญ่ล่าสุดของจีนที่ดำเนินยุทธศาสตร์โควิดเป็นศูนย์ด้วยมาตรการคุมเข้มพรมแดนและการล็อกดาวน์พื้นที่ตั้งแต่พบผู้ติดเชื้อรายแรกๆ

แถลงการณ์ของทางการเมืองหยูโจว ระบุว่า นอกจากประชาชนในพื้นที่จะต้องห้ามออกนอกบ้านแล้ว ทุกชุมชนจะต้องจัดเวรยามตรวจตราควบคุมตามทางเข้าชุมชนต่างๆ เป็นการมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเข้มงวด 

ก่อนหน้านี้ ทางการประกาศให้รถบัสโดยสารและแท็กซี่หยุดวิ่งให้บริการ และสั่งปิดห้างสรรพสินค้า พิพิธภัณฑ์และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆด้วย

วันเดียวกันนี้ จีนยังรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่เพิ่มขึ้นอีก 175 ราย ในจำนวนนี้ 5 รายอยู่ในมณฑลเหอหนาน และพบผู้ติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนอีก 8 คลัสเตอร์ ที่มีความเชื่อมโยงกับโรงงานผลิตเสื้อผ้าแห่งหนึ่งในเมืองหนิงโป