“อังกฤษ” กางแผนรับมือแรงงานลาป่วยโควิด หลังเทศกาลหยุดยาว

“อังกฤษ” กางแผนรับมือแรงงานลาป่วยโควิด หลังเทศกาลหยุดยาว

"รัฐบาลอังกฤษ" เตรียมแผนในการรับมือกับปัญหาการลาป่วยของบรรดาแรงงานมากถึง 25 % ในกรณีที่คนเหล่านี้ติดเชื้อโควิด-19 ไม่สามารถทำงานได้

รัฐมนตรีอังกฤษหลายคนกำลังทำงานเพื่อพัฒนา“แผนฉุกเฉินที่มีประสิทธิภาพ” เพื่อรับมือกับปัญหาการลาป่วยขนานใหญ่ในสถานที่ทำงาน เนื่องจากรัฐบาลได้เตือนว่าผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้น อาจส่งผลให้พนักงานหยุดงานกันมากถึง 1 ใน 4 ของจำนวนแรงงานทั้งหมด

สำนักงานคณะรัฐมนตรีอังกฤษ เปิดเผยว่า ผู้นำภาครัฐได้รับการขอให้มีการเตรียมความพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด สำหรับอัตราการลาป่วยที่ 10, 20 และ 25%

ปัจจุบันสหราชอาณาจักร มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว อยู่ที่ 134,900 ราย เป็นข้อมูลเมื่อวันที่ 2 ม.ค.2565 ขณะที่ภาคการคมนาคมการดูแลสุุขภาพและโรงเรียนต่างก็ได้รับผลกระทบจากการลาป่วยแล้ว

มีรายงานว่า จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น นำไปสู่การแยกตัวเองของผู้คนจำนวนมาก และไม่สามารถไปทำงานได้ สิ่งนี้ส่งผลกระทบอย่างยิ่งต่ออุตสาหกรรมที่พนักงานไม่สามารถทำงานจากที่บ้านได้ 

สำนักงานคณะรัฐมนตรีอังกฤษ เปิดเผยว่า รัฐมนตรีประจำสำนักคณะรัฐมนตรีสตีฟ ลาร์เคลย์ กำลังเป็นประธานในการประชุมกับรัฐมนตรีเพื่อประเมินว่าการแพร่กระจายของเชื้อโอมิครอน มีผลกระทบต่อแรงงานและห่วงโซ่อุปทานอย่างไร

ด้านนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ได้ขอให้รัฐมนตรีทำงานร่วมกับภาคส่วนที่พวกเขาเกี่ยวข้อง เพื่อทดสอบการเตรียมการและแผนฉุกเฉิน เพื่อที่จะจำกัดปัญหาการหยุดชะงัก

บาร์เคลย์บอกว่า เชื้อโอมิครอนที่แพร่ระบาดได้สูงหมายความว่าธุรกิจและบริการสาธารณะ “จะเผชิญกับการหยุดชะงักในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการลาป่วยของพนักงานที่สูงกว่าปกติ”

สำนักคณะรัฐมนตรีบอกว่าจนถึงตอนนี้ การหยุดชะงักของภาครัฐส่วนใหญ่ ที่เกิดจากโอมิครอนยังอยู่ในการควบคุม ในอังกฤษเวลส์และไอร์แลนด์เหนือผู้ที่มีผลตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นบวกต้องกักตัวเองเป็นเวลาอย่างน้อย 7 วัน และที่เพื่อยุติการแยกตัวเอง ต้องมีผลตรวจ 2 ครั้งเป็นลบในเวลาห่างกัน 24 ชั่วโมง โดยผลการตรวจครั้งแรก ต้องเป็นหลังจากการแยกตัวเองเป็นวันที่ 6

ส่วนในสกอตแลนด์ผู้ติดเชื้อ ต้องแยกตัวออกไปเป็นเวลา 10 วันเต็ม

ผู้ติดเชื้อที่ไม่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ต้องแยกตัวเองเป็นเวลา 10 วันในทุกพื้นที่ของสหราชอาณาจักร

บางคนได้ออกมาเรียกร้องให้มีการนำระบบการแยกตนเองแบบสหรัฐอเมริกามาใช้ เมื่อผู้คนต้องแยกตัวเองเป็นเวลา 5 วันเท่านั้น แต่สำนักงานความมั่นคงด้านสุขภาพแห่งสหราชอาณาจักรหรือ UKHSA กล่าวว่า การทำเช่นนั้นไม่ก่อให้เกิดผลดี และอาจทำให้การขาดแคลนพนักงานแย่ลง หากมันนำไปสู่การทำให้คนติดเชื้อมากขึ้น

มีการอธิบายว่าทั้ง 2 ระบบนั้นไม่เหมือนกัน โดยในสหราชอาณาจักร “นาฬิกา” การแยกตัวเองจะเริ่มขึ้นเมื่อบุคคลนั้นมีอาการหรือได้รับผลการทดสอบเป็นบวก แล้วแต่ว่าอะไรจะมาก่อน

ในสหรัฐ การแยกตัวเองจะเริ่มขึ้นหลังจากมีผลตรวจเป็นบวกแล้วเท่านั้น ซึ่งอาจเป็นเวลาหลายวันหลังจากที่มีอาการปรากฏขึ้นครั้งแรก

อย่างไรก็ตาม UKHSA บอกว่าในวันที่ 6 แบบจำลองของพวกเขาชี้ว่าผู้คน 10-30 % จะยังคงมีเชื้ออยู่ ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาได้รับผลการทดสอบเร็วแค่ไหนหลังจากมีอาการโควิด-19 ส่วนการสิ้นสุดการแยกตัวเองหลังจาก 7 วัน ตามมาด้วยผลการทดสอบที่เป็นลบ 2 ครั้งนั้น ให้ผลคล้ายกับการแยกตัวเองเป็นเวลา 10 วัน เมื่อผู้คน 5% จะยังคงติดเชื้ออยู่