ไบเดนระดมสมองผู้ว่าการรัฐ หวังผ่าทางตันวิกฤติโอมิครอน
ไบเดนระดมสมองผู้ว่าการรัฐ หวังผ่าทางตันวิกฤติโอมิครอน ขณะนายแพทย์แอนโทนี เฟาซี ที่ปรึกษาด้านการแพทย์ระดับสูงของทำเนียบขาวบอกว่าบางทีอาจจำเป็นต้องบังคับฉีดวัคซีนสำหรับการสัญจรทางอากาศภายในประเทศ
ประธานาธิบดีสหรัฐประชุมทางไกลผู้ว่าการรัฐ - เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ระดมสมองหาทางรับมือการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนให้ได้ โดยยอมรับว่ามีความเป็นไปได้ที่คนไข้โควิด-19ในสหรัฐอาจล้นโรงพยาบาลแต่ก็ปรามชาวอเมริกันทั้งประเทศว่าอย่าตื่นตระหนกกับการระบาดของโอมิครอนมากจนเกินเหตุ
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ซึ่งประชุมทางไกลกับบรรดาผู้ว่าการรัฐหลายแห่งรวมทั้งบรรดาที่ปรึกษาด้านสาธารณสุขระดับสูง ที่ทำเนียบขาวเป็นเจ้าภาพ ย้ำว่าโควิดกลายพันธุ์สายพันธุ์โอมิครอนจะไม่ส่งผลกระทบแบบเดียวกับครั้งที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในระยะแรกในช่วงปี 2563 หรือการแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์เดลตาเมื่อช่วงกลางปี
แต่การระบาดอย่างรวดเร็วของสายพันธุ์นี้อาจทำให้โรงพยาบาลบางแห่งในสหรัฐล้นเพราะคนไข้โควิด-19 ท่ามกลางการแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอมิครอนที่เพิ่มขึ้น แต่โดยทั่วไปสหรัฐได้เตรียมพร้อมไว้เป็นอย่างดีเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดระลอกล่าสุด เพราะฉะนั้นชาวอเมริกันไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนก
โควิดสายพันธุ์โอมิครอนยังคงสร้างความปั่นป่วนแก่ตารางการเดินทางช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ของสายการบินต่างๆ เนื่องจากการระบาดของโอมิครอนที่ทำให้นักบินและลูกเรือบางส่วนต้องกักตัว
ล่าสุด นายแพทย์แอนโทนี เฟาซี ที่ปรึกษาด้านการแพทย์ระดับสูงของทำเนียบขาว บอกว่าบางทีอาจจำเป็นต้องบังคับฉีดวัคซีนสำหรับการสัญจรทางอากาศภายในประเทศ
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีไบเดน ยังกล่าวว่า การที่ประชาชนสามารถเข้าถึงการตรวจเชื้อได้อย่างกว้างขวางและโครงการฉีดวัคซีนหมู่ มีส่วนช่วยให้สถานการณ์แพร่ระบาดไม่รุนแรงจนรับมือไม่ได้
“เรามีคนฉีดวัคซีนและฉีดเข็มกระตุ้นจำนวนมาก ด้วยเหตุนี้จึงไม่เห็นคนไข้ที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นมากเท่ากับที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ชาวอเมริกัน และสหรัฐมีความก้าวหน้าทำให้การรับมือกับการระบาดของโรคโควิดยังสามารถทำได้” ไบเดน กล่าว
แต่ประธานาธิบดีไบเดน ก็ยอมรับว่าแม้ยกระดับปริมาณการตรวจเชื้อ แต่ก็ยังไม่เพียงพอ ในเร็วๆ นี้ รัฐบาลจะส่งชุดตรวจเชื้อแบบตรวจเองที่บ้าน 500 ล้านชุด ให้แก่พลเมืองอเมริกันทุกคน
สหรัฐ ยังคงเป็นชาติที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดใหญ่หนักหน่วงที่สุดในโลก จนถึงตอนนี้พบผู้ติดเชื้อแล้วจำนวนกว่า 52 ล้านราย และเสียชีวิตจำนวนกว่า 816,000 ราย
ประธานาธิบดีไบเดนของสหรัฐยังให้คำมั่นว่าจะให้ความช่วยเหลือผู้ว่าการรัฐที่กำลังเผชิญการระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ขณะเดียวกันก็แจ้งด้วยว่า รัฐต่างๆ จะต้องแสดงความเป็นผู้นำในการควบคุมสถานการณ์โรคระบาด
“ตอนนี้ยังไม่มีทางออกจากรัฐบาลกลางให้ เพราะต้องแก้ในระดับรัฐก่อน”ไบเดน กล่าว
การแสดงความเห็นลักษณะนี้ถือเป็นการยอมรับที่ชัดเจนที่สุดของรัฐบาลประธานาธิบดีไบเดนในประเด็นที่ว่า รัฐบาลจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลท้องถิ่นและรัฐบาลประจำรัฐในการสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19
“สิ่งที่ผมต้องการย้ำกับผู้ว่าการรัฐไม่มีอะไรมาก หากต้องการอะไร ขอให้บอก อะไรที่ทำได้เราพร้อมยื่นมือช่วย”ไบเดน กล่าว
นอกจากนี้ประธานาธิบดีไบเดน ยังตอบคำถามหลังการแถลงว่า เขาจะสนับสนุนคำแนะนำที่มีการแก้ไขใหม่เกี่ยวกับการร่นระยะเวลาการกักตัวผู้ติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่ ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวว่า “ผมต้องฟังความเห็น ขอคำแนะนำ และปฏิบัติตามทีมแพทย์”
รัฐบาลกลางจะจัดส่งบุคลากรทางการแพทย์จำนวน 1,000 คนไปยังโรงพยาบาลต่างๆ ที่เผชิญปัญหาในการรับมือกับผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโอมิครอนในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ.ด้วย
วันเดียวกันนี้ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ(ซีดีซี)ได้ออกคำแนะนำใหม่ให้ชาวอเมริกันที่ติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่มีอาการป่วย สามารถลดระยะเวลากักตัวจากเดิม 10 วันเป็น 5 วัน แต่ยังต้องสวมหน้ากากเมื่อพบปะผู้อื่นต่อไปอีก 5 วัน แม้ข้อเสนอแนะใหม่ไม่ได้มีผลบังคับ แต่บริษัทและผู้กำหนดนโยบายหลายรายทั่วประเทศให้ความร่วมมือปฏิบัติตามอย่างดี
คำแนะนำลดเวลากักตัวนี้ใช้กับบุคคลที่ติดเชื้อโควิด-19 ในขณะที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนหรืออยู่ในระยะเวลาเกินกว่า 6 เดือนหลังการฉีดวัคซีน mRNA เข็ม 2 หรือเกินกว่า 2 เดือนหลังการฉีดวัคซีนของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน(เจแอนด์เจ) ที่เป็นแบบฉีดเข็มเดียว และยังไม่ได้ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น
ส่วนคนที่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น ไม่จำเป็นต้องกักตัว หากติดเชื้อและไม่มีอาการ แต่ต้องสวมหน้ากากนาน 10 วัน
ซีดีซี ยืนยันว่า คำแนะนำใหม่เป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์ที่บ่งชี้ว่า การแพร่กระจายเชื้อส่วนใหญ่เกิดขึ้นในช่วงแรกของอาการป่วยคือ ในช่วง 1-2 วันแรกก่อนมีอาการ และ 2-3 วันแรกหลังมีอาการ
คำแนะนำใหม่มีขึ้นในช่วงที่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์โอมิครอนกลายเป็นสายพันธุ์หลักในสหรัฐคิดเป็นสัดส่วน 73% ของผู้ติดเชื้อทั่วประเทศตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว
โดยมีผู้ติดเชื้อกว่า 2 แสนคนต่อวันในช่วง 2 วันที่ผ่านมา เข้าใกล้สถิติสูงสุดในเดือนม.ค.ปีที่แล้ว และจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นในกลุ่มผู้ฉีดวัคซีนครบโดส รวมถึงคนที่ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น โดยผู้ป่วยที่ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนจะมีอาการป่วยเล็กน้อย หรือ บางคนไม่มีอาการเลย
การลดเวลากักตัวสำหรับผู้ติดเชื้อไม่มีอาการจะทำให้คนกลุ่มนี้สามารถกลับไปทำงานหรือโรงเรียนได้โดยต้องมีมาตรการป้องกันส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม ขณะที่เวลานี้สายการบินหลายแห่งกำลังประสบปัญหาขาดแคลนพนักงานสืบเนื่องจากมาตรการกักตัว ส่งผลให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินจำนวนมากตั้งแต่ช่วงวันคริสต์มาสอีฟที่ผ่านมา
พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์ ศิลาวงษ์