บริษัทอาวุธรวยต่อเนื่องสวนกระแสโควิด

รายงานประจำปีประเมินบริษัทอาวุธฉบับล่าสุดจากสถาบันวิจัยสันติภาพระหว่างประเทศสต็อกโฮล์ม (SIPRI) ระบุว่า รัฐบาลทั่วโลกยังเดินหน้าซื้ออาวุธต่อเนื่องระหว่างโควิด-19 ระบาด อีกทั้งบางประเทศยังออกมาตรการหนุนบริษัทค้าอาวุธรายใหญ่ด้วย

ในภาพรวมบริษัทอาวุธชั้นนำ 100 บริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้น 1.3% ในปี 2562 สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 5.31 แสนล้านดอลลาร์ แม้เศรษฐกิจโลกหดตัวกว่า 3% ก็ตาม

ห้าบริษัทชั้นนำมาจากสหรัฐ โดยล็อกฮีดมาร์ติน ที่มีเครื่องบินรบ F-35 และขีปนาวุธหลายชนิดรวมทั้งอื่นๆ เป็นสินค้าขายดี เป็นบริษัทยอดขายอันดับหนึ่งที่ 5.82 หมื่นล้านดอลลาร์

บริษัท BAE Systems ของอังกฤษอยู่ในอันดับ 6 สูงสุดของบรรดาบริษัทยุโรป ตามด้วยบริษัทจีน 3 บริษัท และในบรรดาประเทศผู้ผลิตอาวุธชั้นนำ มีเพียงฝรั่งเศสและรัสเซียเท่านั้นที่ยอดขายลดลงในปีที่ผ่านมา

รายงานชี้ว่า การที่ผู้ผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ส่วนใหญ่ไม่ได้รับผลกระทบเป็นเพราะรัฐบาลประเทศต่างๆ ยังต้องการสินค้าและบริการทางทหารอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งบริษัทยังได้ประโยชน์จากมาตรการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง รวมถึงมาตรการพิเศษสำหรับช่วยเหลือบริษัทอาวุธโดยเฉพาะ เช่น เร่งการชำระเงินหรือเร่งสั่งซื้ออาวุธ อีกทั้งสัญญาด้านกลาโหมปกติมักกินเวลาหลายปี บริษัทสามารถทำกำไรได้ตั้งแต่ก่อนเกิดวิกฤติสุขภาพ

“อย่างไรก็ตาม แม้มีปัจจัยเหล่านี้และปัจจัยอื่นๆ แต่ใช้ว่าการผลิตอาวุธโลกจะมีภูมิคุ้มกันจากการระบาดของโควิด-19 ไปได้ทั้งหมด” รายงานระบุพร้อมย้ำว่า อัตราการเพิ่มของผลกำไรชลอตัวลงอย่างมากระหว่างปี 2562-2563 มาตรการที่ออกมาเพื่อระงับการแพร่ระบาดของโควิดสร้างความปั่นป่วนให้กับซัพพลายเชนของอุตสาหกรรมอาวุธเช่นเดียวกับเศรษฐกิจในภาพใหญ่