ดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งกว่า 300 จุด ส่งสัญญาณวอลล์สตรีทประเดิมเดือนธ.ค.สดใส

ดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งกว่า 300 จุด ส่งสัญญาณวอลล์สตรีทประเดิมเดือนธ.ค.สดใส

ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นกว่า 300 จุด บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีท จะดีดตัวขึ้นในวันนี้ ซึ่งเป็นการซื้อขายวันแรกของเดือนธ.ค. หลังจากดิ่งลงอย่างหนักวานนี้

ณ เวลา 18.12 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 310 จุด หรือ 0.9% สู่ระดับ 34,767 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลงกว่า 600 จุดเมื่อคืนนี้ หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณยุติโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) เร็วกว่าที่คาดไว้

นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่ผู้บริหารของบริษัทโมเดอร์นา เตือนว่า วัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบันจะมีประสิทธิภาพลดลงในการป้องกันไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน

นักลงทุนยังคงจับตาถ้อยแถลงของนายพาวเวลในวันนี้ โดยเขามีกำหนดเข้าพบคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ หลังจากที่ได้เข้ารายงานต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภา วานนี้

โกลด์แมน แซคส์ ออกรายงานคาดการณ์ว่า เฟดจะเพิ่มการปรับลดวงเงินคิวอีเป็นเดือนละ 30,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 2 เท่าจากเดิมเดือนละ 15,000 ล้านดอลลาร์ โดยจะปูทางให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน 2565 ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่ที่สหรัฐเผชิญการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปี 2563

โกลด์แมน แซคส์ ออกรายงานดังกล่าว หลังจากที่นายพาวเวล กล่าววานนี้ว่า เฟดอาจปรับลดวงเงินคิวอีมากกว่าเดือนละ 15,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเฟดจะทำการหารือกันในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 14-15 ธันวาคม นี้

"ขณะนี้ เศรษฐกิจมีความแข็งแกร่งมาก และแรงกดดันจากเงินเฟ้อได้เพิ่มสูงขึ้น ผมจึงเห็นว่าถึงเวลาเหมาะสมแล้วที่เฟดจะพิจารณายุติโครงการซื้อพันธบัตรให้เร็วขึ้นกว่าเดิมหลายเดือน โดยเราจะหารือกันในการประชุมครั้งต่อไป" นายพาวเวล กล่าวต่อคณะกรรมาธิการ การธนาคารประจำวุฒิสภาเมื่อวานนี้

ทั้งนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% ในการประชุมวันที่ 3 พฤศจิกายน และเฟดจะปรับลดวงเงินคิวอีเดือนละ 15,000 ล้านดอลลาร์

เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน โดยเฟดจะปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเดือนละ 10,000 ล้านดอลลาร์ และปรับลดวงเงินซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (เอ็มบีเอส) เดือนละ 5,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งการลดวงเงินคิวอีดังกล่าวจะทำให้เฟดยุติการทำคิวอีโดยสิ้นเชิงในกลางปี 2565

ก่อนหน้านี้ เฟดได้ทำคิวอีเดือนละ 120,000 ล้านดอลลาร์ โดยเฟดซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐวงเงิน 80,000 ล้านดอลลาร์ และซื้อตราสารหนี้เอ็มบีเอสในวงเงิน 40,000 ล้านดอลลาร์

นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 581,000 ตำแหน่งในเดือนพฤศจิกายน

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 531,000 ตำแหน่งในเดือนตุลาคม สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 450,000 ตำแหน่ง จากระดับ 312,000 ตำแหน่งในเดือนกันยายน ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวลงสู่ระดับ 4.6% โดยต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.7% จากระดับ 4.8% ในเดือนกันยายน

 


พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์  ศิลาวงษ์