เยอรมนีเล็งออกข้อบังคับฉีดวัคซีนหลังยอดติดเชื้อโควิดพุ่ง-อัตราฉีดต่ำ

เยอรมนีเล็งออกข้อบังคับฉีดวัคซีนหลังยอดติดเชื้อโควิดพุ่ง-อัตราฉีดต่ำ

นักการเมืองเยอรมนีกำลังหารือเกี่ยวกับการออกกฎข้อบังคับให้ประชาชนต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 หลังจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นและอัตราการฉีดวัคซีนที่ยังอยู่ในระดับต่ำ

สมาชิกหลายคนของพรรคอนุรักษ์นิยมภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิลเปิดเผยว่า รัฐบาลกลางและรัฐบาลของแต่ละรัฐควรจะบังคับให้มีการฉีดวัคซีนเร็ว ๆ นี้เนื่องจากความพยายามด้านอื่น ๆ ที่จะผลักดันอัตราการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในเยอรมนีประสบความล้มเหลว โดยขณะนี้อัตราการฉีดวัคซีนอยู่ที่ระดับเพียง 68%

ทิลแมน คูบาน หัวหน้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ของพรรคสหภาพประชาธิปไตยคริสเตียน (ซีดียู) ของนางแมร์เคิลเปิดเผยกับหนังสือพิมพ์ Die Welt ของเยอรมนีว่า "เรามาถึงจุดที่เราต้องพูดให้ชัดเจนว่าเราต้องการออกข้อบังคับการฉีดวัคซีนและล็อกดาวน์ผู้ไม่ฉีดวัคซีนโดยพฤตินัย"

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา อัตราของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในรอบ 7 วันของเยอรมนีเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นวันที่ 14 ติดต่อกันนับตั้งแต่เริ่มเกิดการแพร่ระบาดในเดือนก.พ. 2563 โดยตัวเลขดังกล่าวอยู่ที่ 372.7 ทั่วประเทศ ขณะที่ผู้ติดเชื้อโควิด-19 โดยรวมอยู่ที่ 5.35 ล้านคน และยอดรวมผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 99,062 คน นับตั้งแต่เริ่มการแพร่ระบาด

มาร์คุส เซอเดอร์ มุขมนตรีแห่งรัฐบาวาเรียเรียกร้องให้รัฐบาลกลางเร่งตัดสินใจบังคับให้ประชาชนฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ขณะที่ดาเนียล กุนเธอร์ มุขมนตรีของรัฐชเลสวิก โฮลชไตน์ กล่าวว่าอย่างน้อยทางการเยอรมนีควรจะหารือขั้นตอนดังกล่าวเพื่อเพิ่มแรงกดดันกับประชาชนที่ยังไม่ฉีดวัคซีน