เวียดนามฝันปั้น‘เกาะฟูโกว๊ก’ดังระดับโลกเหมือนภูเก็ต!

เวียดนามฝันปั้น‘เกาะฟูโกว๊ก’ดังระดับโลกเหมือนภูเก็ต!

เวียดนามเปิดเกาะฟูโกว๊ก อดีตเกาะตกปลาซอมซ่อ หวังผลักดันเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ของเอเชียหลังผ่อนคลายมาตรการคุมโควิด-19

หลังจากเวียดนามเริ่มใช้พาสสปอร์ตวัคซีนในเดือนนี้ วันนี้ (20 พ.ย.) นักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้ราว 200 คน มีกำหนดเดินทางมาถึงเกาะฟูโกว๊ก ที่ตั้งอยู่ในอ่าวไทยห่างจากกัมพูชาไม่กี่กิโลเมตร

นอกจากชายหาดขาวบริสุทธิ์เงียบสงบแล้วนักท่องเที่ยวจะได้พบกับความบันเทิงและความสะดวกสบายจาก “วินเพิร์ลรีสอร์ต” โรงแรมขนาด 12,000 ห้อง สวนสนุก สนามกอล์ฟ 18 หลุม กาสิโน ซาฟารีพาร์ค และเวนิสจำลอง

รีสอร์ตมูลค่า 2,800 ล้านดอลลาร์แห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของตัวแบบ “เมืองที่ไม่เคยหลับใหล” เปิดตัวเมื่อ 6 เดือนก่อน ในช่วงที่โควิด-19 เล่นงานการท่องเที่ยวทั่วโลก ประเทศเอเชียอื่นๆ ที่พึี่งพาการท่องเที่ยวเป็นหลักอย่างไทยจำเป็นต้องคิดหาแนวทางการท่องเที่ยวแบบใหม่

สำหรับมัคคุเทศก์วัย 33 ปี  “ไหล่ ชี ฟุก” เขาตั้งตาคอยให้นักท่องเที่ยวกลับมาเยือนฟูโกว๊กอีกครั้ง 

ฟุกย้อนอดีตวัยเยาว์ยามยากของตนว่า “ใครๆ ก็อยากหนีไปจากฟูโกว๊ก”ตัวเขาเองก็จากไปเป็นเซลส์แมนในเมืองใกล้ๆ หลายปี จนกระทั่งเกาะนี้ได้รับความนิยมมากขึ้นฟุกจึงกลับมาบ้านเกิด

“แต่ก็น่าเสียดายนะ” มัคคุเทศก์คร่ำครวญกับเอเอฟพี เมื่อชายหาดงามด้วยทิวปาล์มบนเกาะต้องกลายเป็นรีสอร์ต

พลาสติกกองพะเนิน

ก่อนถึงกำหนดนักท่องเที่ยวเข้าพักในวันนี้ วินเพิร์ลรีสอร์ตจัดการทำความสะอาดชายหาด วางโต๊ะอาหารและเตียงอาบแดด

พนักงานบางคนก็วุ่นวายกับการเพนท์ภาพดอกไม้บนหมวกทรงกรวย

“ตอนที่ได้ยินว่านักท่องเที่ยวจะกลับมา ผมตื่นเต้นมาก” โหง่ ทิ บิค ถ่วง ผู้ช่วยผู้จัดการเผยความรู้สึก

ก่อนโควิด-19 ระบาดในปี 2562 ประชาชนราว 5 ล้านคนมาพักผ่อนบนเกาะฟูโกว๊ก ในจำนวนนี้เป็นชาวต่างชาติ 5 แสนคน ส่วนใหญ่มาจากจีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และรัสเซีย

วินกรุ๊ป บริษัทยักษ์ใหญ่เจ้าของคอมเพล็กซ์ใหม่บนเกาะ ผลักดันสร้างฟูโกว๊กให้เป็น “แหล่งท่องเที่ยวต่างประเทศแห่งใหม่บนแผนที่ท่องเที่ยวโลก”

เคน แอตคินสัน รองประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาการท่องเที่ยวเวียดนาม กล่าวว่า มีการวางแผนสร้างหรือกำลังสร้างโรงแรมถึง 40,000 ห้องเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว “มากกว่าในเมืองซิดนีย์ของออสเตรเลียด้วยซ้ำไป”

เวียดนามนั้นฝันอยากเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังระดับโลกอย่างที่ภูเก็ตของไทยเป็น

แอตคินสันเคยพาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลเวียดนามมาดูเกาะฟูโกว๊กเมื่อปี 2548 เขาตั้งข้อสังเกตว่า ภูเก็ตต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะสร้างชื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกได้ แต่"เวียดนามมีแนวโน้มต้องการทำทุกสิ่งทุกอย่างให้ได้ในครั้งเดียว

“น่าเสียดาย ผมไม่คิดว่ามีคนสนใจประโยชน์ระยะยาวของฟูโกว๊กมากพอ”

ฟูโกว๊ก เป็นแหล่งสงวนชีวมณฑลของยูเนสโก น่านน้ำโดยรอบเต็มไปด้วยแหล่งปะการัง ครั้งหนึ่งชายหาดเคยเป็นที่วางไข่ของเต่าเขียวและกระ แต่รายงานการประเมินของยูเนสโกเมื่อปี 2561 ระบุว่า หลายปีหลังเต่าเขียวและกระไม่มาวางไข่บนเกาะนี้อีกเลย

กองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF) เคยเตือนว่า พลาสติกจะท่วมแม่น้ำ ลำคลอง และชีวิตสัตว์จนแทบไม่อาจจินตนาการแต่ละวันมีขยะบนเกาะราว 160 ตันหรือเกือบเต็มรถบรรทุก 16 คัน ขณะที่การจัดการขยะของฟูโกว๊กไม่สามารถจัดการกับการท่องเที่ยวที่เติบโตรวดเร็วได้

“นักท่องเที่ยวเดี๋ยวนี้ตระหนักเรื่องสิ่งแวดล้อมมาก พวกเขาไม่อยากไปในที่ที่ขยะเกลื่อนชายหาด หรือปล่อยของเสียลงทะเล” แอตคินสันเตือนต่อ

แต่ที่มาพร้อมๆ กับขยะคือแหล่งท่องเที่ยวสะดุดตา เช่น เคเบิลคาร์วิ่งแบบนันสต็อปยาวที่สุดในโลกและพิพิธภัณฑ์เท็ดดีแบร์แห่งแรกของเวียดนาม ฟูโกว๊กยังมีโอกาส

ชู ดิ่นห์ ดัค วัย 26 ปี จากแผ่นดินใหญ่เวียดนามขี่จักรยานยนต์มาเกาะฟูโกว๊กครั้งแรกในปี 2560 เขาบึ่งฝ่ากระแสลมตะลุยป่าทึบมายังหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ที่ยังหาเลี้ยงชีพด้วยการหาปลายามพระอาทิตย์ขึ้น เห็นแล้วก็ตกหลุมรักทันที สองปีต่อมาดัคเปิดธุรกิจโฮมสเตย์ง่ายๆ รองรับชาวต่างชาติ

“เป้าหมายของผมที่นี่ไม่ใช่การหาเงินเยอะๆ แต่ผมอยากให้เขามากันมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ถ้าฟูโกว๊กยังไม่พัฒนา ก็ยังเป็นไข่มุกที่ยังไม่มีใครค้นพบ”