ไวรัสไข้หวัดนกกลายพันธุ์ในจีนเพิ่มความเสี่ยงซ้ำเติมโควิด-19

ไวรัสไข้หวัดนกกลายพันธุ์ในจีนเพิ่มความเสี่ยงซ้ำเติมโควิด-19

ผู้เชี่ยวชาญกังวลเกี่ยวกับเชื้อไวรัสไข้หวัดนกกลายพันธุ์ หลังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นในจีน และดูเหมือนไวรัสจะเปลี่ยนแปลงไปและอาจแพร่เชื้อสู่คนได้มากขึ้น

องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) กล่าวว่า จีนรายงานผู้ติดเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N6 จำนวน 21 รายในปี 2564 ซึ่งปีก่อนหน้านี้มีอยู่เพียง 5 ราย

ตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อ H7N9 ซึ่งมีอยู่หลายร้อยรายในปี 2560 แต่การติดเชื้อที่ว่านี้มีความรุนแรง โดยผู้ติดเชื้อจำนวนมากมีอาการป่วยหนักและเสียชีวิตอย่างน้อย 6 ราย

"ทิจส์ คูอิเคน" อาจารย์ที่ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยอีรามุส ยูนิเวอร์ซิตี้ ในเมืองรอตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ กล่าวว่า การเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ป่วยในประเทศจีนในปีนี้เป็นเรื่องที่น่ากังวล เนื่องจากไวรัสชนิดนี้เป็นไวรัสที่ทำให้คนเสียชีวิตในอัตราที่สูง
 

ดับเบิลยูเอชโอ กล่าวเมื่อต้นเดือนว่า ผู้ที่ติดเชื้อไวรัส H5N6 ส่วนใหญ่เกิดจากการสัมผัสกับสัตว์ปีก แต่ไม่มีการยืนยันกรณีของการแพร่เชื้อไวรัสจากมนุษย์สู่มนุษย์ และว่าจำเป็นต้องมีการสืบหาสาเหตุอย่างเร่งดวน เพื่อทำความเข้าใจกับความเสี่ยงและการเพิ่มขึ้นของการติดเชื้อในมนุษย์

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่มีรายงานการติดเชื้อ H5N6 ในมนุษย์ แต่ไม่มีรายงานการระบาดของไวรัสชนิดนี้ในหมู่สัตว์ปีกในประเทศจีนตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2563

ประเทศจีน เป็นผู้ผลิตสัตว์ปีกและผู้ผลิตเป็ดรายใหญ่ที่สุดของโลก สัตว์เหล่านี้เป็นพาหะของไวรัสไข้หวัดใหญ่หลายชนิด และถึงแม้ว่าจะไม่สามารถติดต่อศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของจีน (ซีดีซี) เพื่อสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อ H5N6 ในมนุษย์ได้ แต่ผลการศึกษาที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ในเดือนก.ย.ระบุว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส H5N6 ที่เพิ่มสูงขึ้นเป็น "ภัยคุกคามร้ายแรงต่ออุตสาหกรรมสัตว์ปีกและสุขภาพของมวลมนุษย์”

 อย่างไรก็ดี ไวรัสไข้หวัดนกแพร่กระจายอย่างต่อเนื่องทั้งในหมู่นกเลี้ยงและนกป่า แต่ไม่ค่อยแพร่เชื้อไปสู่มนุษย์ แต่การเปลี่ยนแปลงของไวรัสที่เพิ่มมากขึ้นเป็นปัญหาสำคัญ ผู้เชี่ยวชาญกังวลว่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่หรือเวอร์ชันใหม่ซึ่งแพร่ระบาดได้ง่ายระหว่างผู้คนอาจทำให้เกิดการระบาดใหญ่ได้

ปัจจุบัน จำนวนผู้ติดเชื้อ H5N6 สูงสุดอยู่ในมณฑลเสฉวนทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน มีรายงานผู้ติดเชื้อมากมายในฉงชิ่งและกวางสี เช่นเดียวกับกวางตุ้ง อันฮุย และหูหนาน ผู้ติดเชื้ออย่างน้อย 10 รายเกิดจากไวรัสที่มีความคล้ายคลึงกับไวรัส H5N8 อย่างมาก 

 

ไวรัสดังกล่าวโจมตีฟาร์มสัตว์ปีกทั่วยุโรปเมื่อฤดูหนาวปีที่แล้วและคร่าชีวิตนกป่าในจีนจำนวนมาก นั่นแสดงให้เห็นว่าการติดเชื้อ H5N6 ล่าสุดในประเทศจีนอาจจะเป็นไวรัสสายพันธุ์ใหม่ก็เป็นได้

คูอิเคน กล่าวว่ามีความเป็นไปได้ว่าไวรัสสายพันธุ์นี้แพร่เชื้อไปสู่มนุษย์ได้มากขึ้นเล็กน้อย หรืออาจมีไวรัสชนิดนี้มากขึ้นในสัตว์ปีกในตอนนี้ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้คนติดเชื้อกันมากขึ้น

รายงานของซีดีซีเมื่อเดือนก.ย. ระบุว่า ผู้ติดเชื้อสี่คนในเสฉวนเลี้ยงสัตว์ปีกที่บ้านและเคยสัมผัสจับต้องนกที่ตายแล้ว ส่วนอีกคนหนึ่งซื้อเป็ดจากตลาดขายสัตว์ปีกที่มีชีวิตหนึ่งสัปดาห์ก่อนที่จะมีอาการป่วย

ด้าน"ฟิลิป เคลส" จากองค์การอาหารและการเกษตร กล่าวว่า จีนฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดนกให้แก่สัตว์ปีก แต่วัคซีนที่ใช้เมื่อปีที่แล้วอาจป้องกันไวรัสสายพันธุ์ใหม่ได้เพียงบางส่วนเท่านั้น และวัคซีนดังกล่าวอาจช่วยป้องกันการระบาดใหญ่ได้ แต่เชื้อไวรัสจะยังคงแพร่กระจายต่อไปได้

ทั้งนี้ กระทรวงการเกษตรและกิจการชนบทของจีนไม่ได้ตอบข้อซักถามของรอยเตอร์เกี่ยวกับประเด็นนี้

อย่างไรก็ตาม การทำฟาร์มหลังบ้านในประเทศจีนเป็นเรื่องที่ปกติ และผู้คนจำนวนมากก็ยังคงซื้อไก่เป็นๆ ที่ตลาดกันอยู่ เมื่อเดือนก.ย. เจ้าหน้าที่เมืองกุ้ยหลิน เขตกว่างซี กล่าวว่าการซื้อขายสัตว์ปีกมีชีวิตในตลาด 13 แห่งของเมืองถูกระงับ และการค้าขายทั้งหมดจะยุติลงภายในหนึ่งปี