จับตาแผนเปิดประเทศ‘ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์’

จับตาแผนเปิดประเทศ‘ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์’

ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ สองประเทศเพื่อนบ้านที่สถานการณ์โควิด-19 ดูจะคล้ายคลึงกัน หลังจากปิดประเทศมาตั้งแต่ มี.ค.2563 ตอนนี้เริ่มวางแนวทางเปิดประเทศแล้ว แม้จะมีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม

วานนี้ (3 ต.ค.) ออสเตรเลียรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลตารายใหม่กว่า 1,900 คน ทางการพยายามควบคุมการระบาดในสองรัฐที่ประชากรมากที่สุดของประเทศ ขณะที่เชื้อกระจายไปยังรัฐอื่นแล้ว

 รัฐวิกตอเรียและนิวเซาท์เวลส์ ที่ถูกล็อกดาวน์มาหลายสัปดาห์รายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,887 คน เสียชีวิต 13 คน ทั้งสองรัฐคาดว่าจะปลดล็อกดาวน์ได้เมื่อประชากรฉีดวัคซีนแล้ว 80% แต่ทางการเตือนว่า เมื่ออสเตรเลียตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกับโควิด-19 จำนวนผู้ติดเชื้ออาจพุ่งขึ้นจนเตียงโรงพยาบาลไม่พอ

รัฐนิวเซาท์เวลส์คาดว่าจะฉีดวัคซีนถึงเป้า 80% ของประชากรภายในสิ้นเดือน ต.ค. หรือต้น พ.ย. ส่วนวิกตอเรียน่าจะถึงหลังจากนั้น 2-3 สัปดาห์

รัฐแทสเมเนียที่ไม่มีผู้ติดเชื้อมานาน 58 วัน รายงานการติดเชื้อในท้องถิ่น 1 คนเมื่อคืนวันเสาร์ (2 ต.ค.) ส่วนรัฐเซาท์ออสเตรเลียก็พบผู้ติดเชื้อรายใหม่หลายคนด้วยช่วงสุดสัปดาห์นี้

รัฐควีนส์แลนด์ที่ปลอดโควิด-19 เสียเป็นส่วนใหญ่ ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่จึงอนุญาตแข่งขันรักบี้ลีกแห่งชาตินัดสุดท้ายได้ที่บริสเบนเมื่อคืนนี้ แต่ลดจำนวนผู้ชมลงเหลือ 75% ของสนามหรือ 39,000 คน

ทั้งนี้ ออสเตรเลียตั้งเป้าค่อยๆ ยกเลิกการห้ามเดินทางไปต่างประเทศในเดือนหน้าสำหรับรัฐที่ฉีดวัคซีนประชากรอายุ 16 ปีขึ้นไปครบสองโดสได้ถึง80% ข้อมูลเมื่อวันเสาร์ (2 ต.ค.) ชาวออสเตรเลียที่ฉีดวัคซีนครบสองเข็มแล้วคิดเป็น 56% ส่วนที่ฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็มคิดเป็น80%

ทั้งนี้ ออสเตรเลียปิดประเทศมาตั้งแต่เดือน มี.ค.2563 อนุญาตให้ประชาชนเดินทางออกไปได้ หรืออนุญาตให้พลเมืองและผู้มีถิ่นพำนักถาวรกลับมาออสเตรเลียได้ในจำนวนจำกัด ทุกคนที่มาถึงต้องถูกกักตัวในโรงแรม 14 วันโดยเสียค่าใช้จ่ายเอง

แม้ไม่กี่เดือนที่ผ่านมา จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่จะพุ่งทำสถิติรายวัน แต่ออสเตรเลียก็มีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมไม่มากเท่าประเทศพัฒนาแล้วอื่นๆ ตั้งแต่เริ่มระบาดมีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมที่กว่า 110,000 คน เสียชีวิต 1,334 คน

ส่วนเพื่อนบ้านนิวซีแลนด์ โควิดสายพันธุ์เดลตากระจายไปไกลเกินกว่าโอ๊คแลนด์แล้ว วานนี้โอ๊คแลนด์ เมืองใหญ่สุดของประเทศที่ล็อกดาวน์มาตั้งแต่กลางเดือน ส.ค. รายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ 32 คน ส่วนเขตวาอิกาโต ตั้งอยู่ห่างจากโอ๊คแลนด์ไปทางใต้ราว 147 กิโลเมตร พบผู้ติดเชื้อ 2 คน นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น สั่งให้หลายพื้นที่ของเขตนี้ล็อกดาวน์เป็นเวลา 5 วัน

วันนี้ (4 ต.ค.) รัฐบาลจะตัดสินใจว่า ประชาชน 1.7 ล้านคนของโอ๊คแลนด์จะถูกล็อกดาวน์ต่อไปอีกหรือไม่ จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมในโอ๊คแลนด์อยู่ที่ 1,328 คน ขณะที่ส่วนอื่นๆ ของประเทศส่วนใหญ่กลับมาใช้ชีวิตปกติได้แล้ว

นายกฯ อาร์เดิร์นกล่าวว่า รัฐบาลกำลังทำทุกอย่างเพื่อสกัดการติดเชื้อให้อยู่ในโอ๊คแลนด์

ด้านคริส ฮิปกินส์ รัฐมนตรีดูแลโควิด-19 แถลงว่า ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.ชาวต่างชาติที่จะมานิวซีแลนด์ต้องฉีดวัคซีนครบแล้ว สอดคล้องกับแอร์นิวซีแลนด์ที่แถลงในวันเดียวกันว่า ผู้โดยสารเที่ยวบินระหว่างประเทศจะต้องฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบโดสแล้ว ถือเป็นนโยบายการเดินทางที่เข้มงวดที่สุดแห่งหนึ่งของโลก 

“การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ถือเป็นความจริงใหม่ของการเดินทางระหว่างประเทศ แหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งของนิวซีแลนด์ตอนนี้ไม่ต้อนรับผู้มาเยือนที่ยังไม่ฉีดวัคซีน” เกรก โฟแรน ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหารแอร์นิวซีแลนด์ระบุในแถลงการณ์

นิวซีแลนด์ปิดประเทศไม่ให้ชาวต่างชาติเข้าตั้งแต่เดือน มี.ค.2563 ขณะนี้มีแผนเปิดประเทศอีกครั้งต้นปีหน้า โดยแอร์นิวซีแลนด์จะใช้นโยบายรับเฉพาะนักเดินทางที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.เป็นต้นไป

ซีอีโอแอร์นิวซีแลนด์ยอมรับว่า ต้องมีคนไม่เห็นด้วยบ้าง “แต่เรารู้ดีกว่านี่คือสิ่งที่ถูกต้องในการปกป้องประชาชนของเรา ลูกค้าของเรา และประชาคมนิวซีแลนด์ในวงกว้าง”