เอเวอร์แกรนด์ ขายหุ้นธนาคารเสิ้งจิงมูลค่า 1.5 พันล้านดอลล์ให้จีน

เอเวอร์แกรนด์ ขายหุ้นธนาคารเสิ้งจิงมูลค่า 1.5 พันล้านดอลล์ให้จีน

ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่อันดับ 2 ของจีนเปิดเผยในวันนี้ว่า บริษัทมีแผนที่จะขายหุ้นมูลค่า 9.99 พันล้านหยวน (1.5 พันล้านดอลลาร์) ที่ทางบริษัทถือครองอยู่ในธนาคารเสิ้งจิง (Shengjing Bank) ให้กับบริษัทบริหารสินทรัพย์ของรัฐบาลจีน

ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่อันดับ 2 ของจีนเปิดเผยในวันนี้ว่า บริษัทมีแผนที่จะขายหุ้นมูลค่า 9.99 พันล้านหยวน (1.5 พันล้านดอลลาร์) ที่ทางบริษัทถือครองอยู่ในธนาคารเสิ้งจิง (Shengjing Bank) ให้กับบริษัทบริหารสินทรัพย์ของรัฐบาลจีน เพื่อระดมเงินทุนในช่วงเวลาที่เอเวอร์แกรนด์กำลังเผชิญกับปัญหาหนี้สินจำนวนมาก

ในรายงานที่เอเวอร์แกรนด์ยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงระบุว่า หุ้นของธนาคารเสิ้งจิงจำนวน 1.75 พันล้านหุ้น ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 19.93% ของทุนเรือนหุ้นของธนาคารนั้น จะถูกขายให้กับบริษัทเสิ่นหยาง เสิ้งจิง ไฟแนนซ์ อินเวสต์เมนท์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทจัดการเงินทุนและสินทรัพย์ของรัฐบาลจีน ในราคาหุ้นละ 5.70 หยวน ซึ่งจะส่งผลให้เสิ่นหยาง เสิ้งจิง ไฟแนนซ์ อินเวสต์เมนท์ กลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุดของธนาคารเสิ้งจิง

นักลงทุนในตลาดการเงินจับตาเอเวอร์แกรนด์ซึ่งมีกำหนดชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้วงเงิน 47.5 ล้านดอลลาร์ในวันนี้สำหรับหุ้นกู้สกุลดอลลาร์ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนมี.ค. 2567 หลังจากที่ทางบริษัทผิดนัดชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ 2 งวดที่มีกำหนดชำระเมื่อวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลจีนกำลังผลักดันให้บรรดาบริษัทของรัฐบาลและบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่รัฐบาลให้การสนับสนุน เข้าซื้อสินทรัพย์บางส่วนในบริษัทเอเวอร์แกรนด์

ด้านธนาคารกลางจีนประกาศว่าจะคุ้มครองสิทธิทางกฎหมายของผู้บริโภคจากผลกระทบในตลาดอสังหาริมทรัพย์ อย่างไรก็ดี แถลงการณ์ดังกล่าวที่ปรากฎในเว็บไซต์ของธนาคารกลางจีน ไม่มีการระบุถึงบริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป แต่อย่างใด