เอฟบีไอเตือนเกิดจลาจลทั่วประเทศช่วงสุดสัปดาห์

เอฟบีไอเตือนเกิดจลาจลทั่วประเทศช่วงสุดสัปดาห์

เอฟบีไอเตือนกลุ่มผู้ประท้วงติดอาวุธอาจก่อเหตุจลาจลทั่วประเทศช่วงสุดสัปดาห์

สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (เอฟบีไอ)ส่งประกาศภายในองค์กรโดยมีเนื้อหาว่า ในระหว่างวันที่ 16-20 ม.ค.นี้ กลุ่มผู้ประท้วงพร้อมด้วยอาวุธอาจก่อเหตุจลาจลรุนแรงตามเมืองใหญ่ๆ ทั่วประเทศ รวมถึงกรุงวอชิงตัน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของนายโจ ไบเดนในวันที่ 20 ม.ค.

ประกาศดังกล่าวระบุว่า ขณะนี้กำลังมีการวางแผนประท้วงติดอาวุธใน 50 รัฐทั่วสหรัฐ ซึ่งรวมถึงอาคารรัฐสภาในกรุงวอชิงตันดีซี โดยทางผู้สืบสวนเชื่อว่า ผู้ประท้วงบางรายมาจากกลุ่มหัวรุนแรง

ด้านผู้บัญชาการสำนักงานกองกำลังพิทักษ์ชาติ แถลงต่อสื่อมวลชนว่า ทางสำนักงานกำลังจับตาดูความเคลื่อนไหวทั่วประเทศอย่างใกล้ชิด และจะประสานงานกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในแต่ละพื้นที่เพื่อให้การสนับสนุนตามความเหมาะสม

ก่อนหน้านี้ เอฟบีไอ เคยออกประกาศเตือนในลักษณะดังกล่าวมาแล้ว ก่อนที่จะเกิดเหตุม็อบบุกอาคารรัฐสภาจริง เมื่อครั้งที่กลุ่มผู้สนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ บุกเข้าอาคารรัฐสภาเพื่อขัดขวางการประกาศรับรองชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีของนายโจ ไบเดน

ล่าสุด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรคเดโมแครตจำนวน 3 รายได้ยื่นญัตติถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ออกจากตำแหน่งในความผิดข้อหายุยงปลุกปั่นให้เกิดการจลาจล

ญัตติดังกล่าวระบุว่า ปธน.ทรัมป์ได้กล่าวเท็จเกี่ยวกับการที่เขาพ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีเพราะมีการโกงการเลือกตั้ง และได้ปลุกระดมมวลชนเพื่อบุกเข้าไปยังสภาคองเกรสในวันพุธที่ผ่านมาเพื่อขัดขวางกระบวนการประกาศรับรองชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีของนายโจ ไบเดน

ทั้งนี้ คาดว่าสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะทำการลงมติต่อญัตติดังกล่าวในสัปดาห์นี้

ส่วนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ได้อนุมัติการประกาศภาวะฉุกเฉินในกรุงวอชิงตันแล้ว โดยจะมีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 24 ม.ค.นี้ หลังจากเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายเตือนถึงภัยคุกคามด้านความมั่นคงที่จะส่งผลกระทบต่อพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของนายโจ ไบเดน