‘เบร็กซิท’ช่วยอังกฤษเลิกเก็บ'ภาษีผ้าอนามัย'

‘เบร็กซิท’ช่วยอังกฤษเลิกเก็บ'ภาษีผ้าอนามัย'

กระทรวงการคลังอังกฤษประกาศเลิกเก็บภาษีผ้าอนามัย เผยทำได้เพราะออกจากอียู

เมื่อเวลา 6.00 น. วันนี้ (1 มี.ค.) ตามเวลาประเทศไทย อังกฤษออกจากตลาดเดียวและสหภาพศุลกากรของสหภาพยุโรป ไม่ต้องปฏิบัติตามระเบียบของอียูอีกต่อไปหลังจากอยู่ร่วมกันมาเกือบ 50 ปี

กระทรวงการคลังประกาศว่า ต่อไปนี้อังกฤษไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายอียูในการเก็บภาษีผ้าอนามัยไม่เกิน 5% ในฐานะสินค้าหรูหราที่ไม่จำเป็นอีกแล้ว

นายริซซี ซูนัก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวว่า ภูมิใจมากที่ได้ยกเลิกภาษีดังกล่าวตามสัญญา

“ผ้าอนามัยเป็นสินค้าจำเป็น จึงสมควรแล้วที่เราไม่เก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม” ขุนคลังอังกฤษกล่าว เขาเคยประกาศเรื่องนี้ไว้ในแผนงบประมาณเมื่อเดือน มี.ค.63

ที่ผ่านมา ส.ส.อังกฤษเรียกร้องให้ยกเลิกเก็บภาษีผ้าอนามัยมานานแล้ว จนกลายเป็นประเด็นสำคัญสำหรับคนที่สนับสนุนให้ออกจากอียู โดยในปี 2559 หลังจากอียูถูกนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอนของอังกฤษกดดันอย่างหนัก จึงต้องประกาศว่า จะให้รัฐสมาชิกตัดสินใจยกเลิกภาษีได้เอง แต่ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น

สำหรับคำประกาศล่าสุดจากกระทรวงการคลัง น.ส.เฟลิเซีย วิลโลว์ ประธานคณะกรรมการบริหารองค์กรการกุศล “ฟอว์เซ็ตต์โซไซตี้” ที่รณรงค์เรื่องความเสมอภาคทางเพศและสิทธิสตรี ยินดีกับความเคลื่อนไหวนี้

“เราเดินมาไกลมากกว่าจะถึงจุดนี้ แต่สุดท้ายภาษีเหยียดเพศที่มองว่าผ้าอนามัยเป็นสินค้าหรูหราที่ไม่จำเป็นก็กลายเป็นเรื่องในหนังสือประวัติศาสตร์”

เซอร์เบอร์นาร์ด เจนกิน ส.ส.พรรคอนุรักษนิยม กล่าวในสภาเมื่อวันพุธ (30 ธ.ค.) “สมควรยิ่งที่เราต้องบอกตัวเองว่า การที่เรายกเลิกภาษีผ้าอนามัยได้ก็เพราะเราออกจากอียู”