ไม่ยอมเป็น ‘นายกฯ บนสายพาน’

ไม่ยอมเป็น ‘นายกฯ บนสายพาน’

รู้จัก "Yoshihide Suga" นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนใหม่ ที่ถูกเลือกเข้ามารับตำแหน่งแทน "ชินโซ อาเบะ" การเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญนี้ มีประเด็นน่าสนใจ โดยเฉพาะเป็น Chief Cabinet Secretary ของอาเบะ พร้อมจับตาก้าวต่อไปของญี่ปุ่นต่อจากนี้ของผู้นำคนใหม่

ผู้นำคนใหม่ของประเทศพัฒนาแล้วที่เข้าดำรงตำแหน่งอย่างเงียบเชียบในปัจจุบัน คงจะไม่มีใครเกินนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น สื่อต่างประเทศแทบไม่รู้จักเขาเลย ทั้งที่แท้จริงแล้วเขาเป็นสตรองแมนด้านการเมืองและกิจการในประเทศที่อยู่เบื้องหลังนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนที่แล้วยาวนานถึง 8 ปี การได้เป็นนายกรัฐมนตรีของเขานั้นน่าสนใจมาก

Shinzo Abe (ชินโซ อาเบะ) ลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อเดือน ส.ค.ปีนี้ หลังจากดำรงตำแหน่งมายาวนานถึง 8 ปี ซึ่งนานที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองญี่ปุ่น เนื่องจากป่วยเป็นโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง ล่าสุดอาการอักเสบขึ้นมาอย่างมากจนต้องตัดสินใจลาออก

พรรค LDP (Liberal Democrat Party) พรรคใหญ่พรรคเดียวของญี่ปุ่น ซึ่งครองอำนาจเกือบตลอดตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้จัดให้มีการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ซึ่งก็จะเป็นนายกรัฐมนตรีไปโดยปริยาย Yoshihide Suga ซึ่งเป็น Chief Cabinet Secretary คู่ใจของนายกรัฐมนตรีคนที่ลาออกชนะจึงได้เป็นแทนเมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา

Chief Cabinet Secretary ตามชื่อก็คือเลขาธิการคณะรัฐมนตรีของไทย แต่อำนาจและความรับผิดชอบของญี่ปุ่นนั้นใหญ่โตและกว้างขวางมาก เป็นตำแหน่งการเมืองที่รับผิดชอบงานของนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะในเรื่องการเมืองและการทำงานของระบบราชการ ชินโซ อาเบะ และนายกรัฐมนตรีอีกหลายคนก็เคยอยู่ในตำแหน่งนี้ก่อนที่จะก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี

Suga (ออกเสียงว่า ซู่-กา โดยเน้นพยางค์แรก) อายุ 72 ปี เรียนจบปริญญาตรีด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัย Hosei ตั้งแต่เรียนจบก็เป็นผู้ช่วยสมาชิกผู้แทนราษฎร จนสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาเทศบาลเมืองโยโกฮามาในปี 2530 และเป็น ส.ส.ครั้งแรกในปี 2539 ตั้งแต่เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรก็ชอบพอกับ ส.ส.ชื่อ ชินโซ อาเบะ เมื่อเขาได้เป็นนายกรัฐมนตรีครั้งแรกระหว่างปี 2549-2550 Suga ก็ได้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงกิจการภายในประเทศและสื่อสาร และในปี 2555 เมื่ออาเบะได้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย เขาก็ได้เป็น Chief Cabinet Secretary ร่วมชะตากรรมกันมาตลอด

ระหว่างหาเสียงในพรรคเมื่อเดือน ส.ค.ปีนี้ เขาบอกว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีชั่วคราวเพื่อปกป้องสิ่งที่ลูกพี่ได้ทำไว้สัก 1 ปี แล้วพรรคค่อยเลือกนายกฯ “ตัวจริง” หรือหัวหน้าพรรคในเดือน ก.ย.ปีหน้า หลังจากเลือกตั้งใหญ่ไปแล้ว อย่างไรก็ดีหลังจากเขาได้เป็นแล้ว สื่อวิจารณ์ว่าดูท่าเขาจะไม่เป็นนายกฯ ชั่วคราวเสียแล้ว เพราะมี ครม.ที่เข้มแข็งและออกนโยบายที่ท้าทาย มีโครงการสำคัญในลำดับสูงถึง 40 โครงการ

ไม่ว่าจะมุ่งมั่นอย่างไรก็ตาม ปัญหาที่รัฐบาลจะต้องเผชิญหน้านั้นไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย มันคุกรุ่นมาตลอดเวลาหลายปี ส่วนหนึ่งเป็นผลที่ต่อเนื่องมาจากสิ่งที่คนญี่ปุ่นเรียกว่า The Lost Decades (ทศวรรษที่สูญเสียไป; พ.ศ.2533-2553) ซึ่งเกิดจากฟองสบู่ในอสังหาริมทรัพย์แตก สถาบันการเงินไม่มั่นคงและผลพวงที่สำคัญยิ่งก็คือผลิตภาพของประเทศที่คงตัวในขณะที่จีนทะยานตัวขึ้นมาอย่างแรง

ปัญหาสำคัญก็คือ ขนาดของประชากรที่ลดน้อยลงและมีสัดส่วนของคนสูงอายุสูงขึ้น จากประชากร 127 ล้านคนจะลดลงเหลือ 102 ล้านในปี 2593 แรงขับเคลื่อนที่สร้างการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจซึ่งอาศัยแรงงานจากประชากรก็จะหายไป การระบาดของโคโรนาไวรัสทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นหดตัวถึงกว่าร้อยละ 6 ในปีนี้ ซึ่งจะซ้ำเติมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ไม่สูงอยู่แล้ว

ญี่ปุ่นได้ใช้การท่องเที่ยวเป็นตัวช่วยผลักดันเศรษฐกิจ โดยในปี 2562 มีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ 31.9 ล้านคน เกือบครึ่งคือคนจีนและเกาหลีใต้ การแข่งขันทางการค้ากับจีนที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของโลกและอันดับ 3 คือญี่ปุ่น ทำให้ความสัมพันธ์มิได้ราบรื่นอย่างที่ประสงค์ ที่ค่อยยังชั่วก็คือการที่ทรัมป์หลุดไปจากวงโคจรของการเมืองโลก ซึ่งจะทำให้ความสัมพันธ์กับสหรัฐอยู่บนฐานที่เป็นปกติมากขึ้น

ญี่ปุ่นไม่อาจมีกองทัพป้องกันประเทศได้ภายใต้รัฐธรรมนูญหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และมีสนธิสัญญากับสหรัฐให้ความคุ้มครองทางทหาร สหรัฐมีท่าทีที่จะถอนทหารออกจากฐานทัพในญี่ปุ่นด้วยซ้ำจนทำให้เกิดความไม่แน่นอนขึ้น

Suga ที่ไม่สันทัดในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่างจากอาเบะที่ถนัดด้านนี้ และมักปล่อยด้านในประเทศให้ Suga จัดการ มาครั้งนี้ Suga จึงมีรัฐมนตรีต่างประเทศมือเก่าที่เป็นนักต่อรองและเข้าใจเรื่องความสัมพันธ์กับสหรัฐ ในด้านเศรษฐกิจที่ Suga ย้ำว่าเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง เขาได้ Taro Aso (ทาโร อาโซ) อดีตนายกรัฐมนตรีมาเป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการคลังเพื่อรับมือกับปัญหาโดยเฉพาะ

ประวัติความเป็นมาและบุคลิกภาพของ Suga อาจช่วยตอบปัญหาได้ว่าเขาจะรับมือกับสารพัดปัญหาได้หรือไม่ Suga ได้ชื่อว่าเป็นคนที่ขยันและทำงานเก่ง หากข้าราชการคนใดทำงานไม่เป็นไปตามเป้า เขาก็ไม่เก็บไว้ เขาเข้าใจกลไกของระบอบราชการและการเมืองดีเพราะมีประสบการณ์สูงจากการเคยทำงานในตำแหน่งสำคัญๆ

เป็นที่รู้กันทั่วว่า เขาเป็นคนที่มีวินัยส่วนตัวสูงมาก ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ เมื่อหมอทักว่าอ้วนไป เขาลดน้ำหนักได้ 14 กิโลกรัมในเวลา 4 เดือน ทุกวันตื่นตีห้า ออกกำลังบริหารหน้าท้อง 100 ครั้ง เดินเร็วอีก 40 นาที อ่านหนังสือพิมพ์ฉบับสำคัญทุกฉบับ ตอนเย็นบริหารแบบเดิมอีก 100 ครั้ง บ่อยครั้งในวันเสาร์อาทิตย์จะเรียกข้าราชการและนักธุรกิจมาให้ข้อมูลเพื่อเรียนรู้เรื่องราวและปัญหาต่างๆ

Suga ได้ชื่อว่าเป็นคนที่มีชีวิตเดินตามแผนกลยุทธ์ส่วนตัวอย่างละเอียด ทุกขั้นตอน ถึงแม้จะเป็น ส.ส.ครั้งแรกเมื่ออายุ 47 ปี ซึ่งถือว่าสายเกินไปก็สามารถไต่ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้ด้วยความขยัน บากบั่นมานะ ทำงานหนัก โดยตระหนักว่าตนเองไม่มีแต้มต่อ ไม่ได้จบมหาวิทยาลัยโตเกียว วาเซดะ เคโอะ หรือเกียวโต เหมือนนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นโดยทั่วไป หากจบจาก Hosei ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนมีชื่อด้านกฎหมายและการเมือง (อาเบะจบจากมหาวิทยาลัย Seikei) เป็นลูกของเกษตรกรปลูกสตรอว์เบอร์รีในชนบทจากจังหวัด Akita ต้องเรียนมหาวิทยาลัยไปทำงานไป (ทั้งอาเบะและอาโซ มีปู่เป็นอดีตนายกรัฐมนตรี)

หากจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี “ตัวจริง” หลังจาก 1 ปีผ่านพ้นไป เขาจะต้องแสดงฝีมือให้ประชาชนเห็นและยอมรับในระดับอย่างน้อยใกล้เคียงที่เขาได้รับอยู่ในตอนนี้คือ ร้อยละ 74 และชนะเลือกตั้งทั่วไปอย่างประทับใจ ถึงแม้ญี่ปุ่นจะมีปัญหาหนักอกหลายเรื่อง แต่ด้วยคุณภาพของประชาชนโดยพื้นฐานและการนำของนายกรัฐมนตรีที่มีความสามารถ การฟาดฟันเอาชนะได้ในระดับหนึ่งจนได้เป็น “ตัวจริง” ก็เป็นสิ่งที่เป็นไปได้

หาก Suga ได้อยู่ต่อเป็น “ตัวจริง” ก็อาจหลุดพ้นจากการเป็นสมาชิกของกลุ่มนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นก่อนหน้าอาเบะที่เป็น “นายกฯ บนสายพาน” กล่าวคือ มาแล้วก็ไปอย่างรวดเร็วจนประชาชนจำชื่อไม่ได้ ญี่ปุ่นมีนายกรัฐมนตรีถึง 9 คนก่อนหน้าอาเบะระหว่างปี 2544-2554 สูงสุดเป็นอยู่ 2 ปีกว่าจนต่ำสุด 266 วันมีอยู่ 6 คน ที่เป็นประมาณคนละ 1 ปี

ลูกเกษตรกรยูโดสายดำคนนี้ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ถึงแม้จะมีอายุน้อยกว่าทรัมป์ 2 ปีและไบเดน 6 ปี ก็มีสุขภาพแข็งแรง มีความมุ่งมั่นทำงานรับใช้ชาติ เรามาช่วยกันเป็นกำลังใจให้ท่าน เพราะญี่ปุ่นเป็นทั้งมหามิตรด้านเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของไทยเราในปัจจุบัน