งด ‘ปันผล-ซื้อหุ้นคืน’ ตุนเงินช่วยเหลือผู้เดือดร้อน

งด ‘ปันผล-ซื้อหุ้นคืน’ ตุนเงินช่วยเหลือผู้เดือดร้อน

ผู้ว่าการ ธปท.ประกาศห้ามธนาคารพาณิชย์ซื้อหุ้นคืนและงดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ซึ่งเชื่อว่าผู้ถือหุ้นทุกรายเข้าใจสถานการณ์เป็นอย่างดี การเสียสละเงินปันผลเพียงส่วนหนึ่ง เพื่อให้แบงก์เก็บตุนไว้เป็นสภาพคล่อง รวมถึงนำไปใช้ปล่อยสินเชื่อหล่อเลี้ยงภาคธุรกิจ

เราเห็นด้วยกับคำสั่งของ “ดร.วิรไท สันติประภพ” ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ประกาศอย่างชัดเจน ห้ามธนาคารพาณิชย์ดำเนินมาตรการ “ซื้อหุ้นคืน” รวมไปถึงการขอให้ “งดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล” จากผลดำเนินงานงวดปี 2563 เพื่อให้ธนาคารพาณิชย์รักษาระดับเงินกองทุนให้เข้มแข็งและรองรับการดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง โดย ผู้ว่าการ ธปท.ให้เหตุผลการออกคำสั่งดังกล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ไม่มีใครรู้ว่าจะจบเมื่อไหร่และจบอย่างไร การรักษาระดับความเข้มแข็งของเงินกองทุนจึงเป็นเรื่องสำคัญ

นอกจากนี้ ดร.วิรไท ประเมินด้วยว่า ระยะข้างหน้ายังมีความไม่แน่นอนสูง จึงไม่ควร “การ์ดตก” ควรรักษาระดับเงินกองทุนเพื่อเป็น “กันชน” ไว้รองรับกับความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้น ส่วนการขอให้ ธนาคารพาณิชย์ ประเมินเงินกองทุนที่เหมาะสม หากเปรียบเทียบก็เหมือนกับการ “ตรวจสุขภาพ” ที่ต้องทำเป็นประจำ ซึ่งวิกฤติคราวนี้ทำให้ลูกค้าของธนาคารพาณิชย์โดนผลกระทบในด้านต่างๆ การประเมินผลกระทบจึงไม่สามารถทำได้อย่างชัดเจน ดังนั้นการทบทวนแผนบริหารจัดการเงินกองทุนในช่วง 1-3 ปีข้างหน้า โดยคำนึงถึงสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมถือเป็นเรื่องที่สมควรทำ

การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ปีนี้เป็นปีที่ไม่ปกติ ทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจไทย ไม่ว่าจะ “คนจน” หรือ “คนรวย” โดนผลกระทบ “รุนแรง” เหมือนกันหมด ทั้งยังไม่สามารถประเมินได้ว่า สถานการณ์ข้างหน้าจะเป็นอย่างไรต่อไป เราเห็นด้วยที่ ธนาคารพาณิชย์ ซึ่งถือเป็น “เสาหลัก” ของเศรษฐกิจไทย ควรต้อง “ยกการ์ด” ให้สูงไว้ และควรใช้เวลาประเมินสถานการณ์อย่างรอบคอบ เพื่อให้แผนบริหารจัดการเงินกองทุนสอดคล้องกับสถานการณ์ในระยะข้างหน้า

ความจริงแล้วคำสั่งห้ามธนาคารพาณิชย์จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลหรือแม้แต่การห้ามซื้อหุ้นคืน ไม่ได้มีเฉพาะประเทศไทยเท่านั้นที่ดำเนินการ ในต่างประเทศมีหลายแห่งที่ทำแบบเดียวกันนี้ ไม่ว่าจะเป็น นิวซีแลนด์ สหภาพยุโรป และอังกฤษ ขณะที่ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ก็เรียกร้องให้ ธนาคารกลางหรือผู้กำกับดูแลสถาบันการเงินทั่วโลก ออกนโยบายระงับการจ่ายเงินปันผลและการซื้อหุ้นคืนในลักษณะเดียวกับที่ ธปท. ทำ ดังนั้นคำสั่งของ ธปท. จึงไม่ใช่เรื่องผิดแปลกใดๆ

เราเชื่อว่า “ผู้ถือหุ้น” ของธนาคารพาณิชย์ทุกราย “เข้าใจ” สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างดี การเสียสละเงินปันผลเพียงส่วนหนึ่ง เพื่อให้แบงก์เก็บตุนไว้เป็นสภาพคล่อง เป็นกระแสเงินสดหรือกระสุนไว้รับมือกับวิกฤติที่ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรบ้างในระยะข้างหน้า ถือเป็นสิ่งที่สมควรทำ และถึงแม้หนี้เสียในระยะข้างหน้าจะไม่เลวร้ายอย่างที่คาดการณ์เอาไว้ อย่างน้อยธนาคารพาณิชย์ก็จะมีเงินสดส่วนที่เพิ่มขึ้นมานี้ นำไปใช้ปล่อยสินเชื่อหล่อเลี้ยงภาคธุรกิจ โดยเฉพาะรายเล็กๆ ซึ่งมีจำนวนมาก ภาคธุรกิจเหล่านี้กำลังต้องการสภาพคล่องไปใช้เป็นทุนเพื่อตั้งต้นทำธุรกิจกันใหม่หลังสถานการณ์โควิดเริ่มสงบลง