ทำไม 'iPhone SE' ถึงเป็นมือถือราคาถูกสุดของ 'Apple'

ทำไม 'iPhone SE' ถึงเป็นมือถือราคาถูกสุดของ 'Apple'

กลายเป็นที่ฮือฮาในวงการสมาร์ทโฟนโลก เมื่อ “Apple” เปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ในราคาเริ่มต้นเพียง 399 ดอลลาร์ ถูกที่สุดในตระกูล iPhone ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของมือถือตลาดบนตลอดช่วงทศวรรษที่ผ่านมา แล้วอะไรคือปัจจัยให้ยักษ์ใหญ่สหรัฐต้องปรับจุดยืนตัวเอง

ก่อนหน้านี้เป็นที่รู้กันดีว่า Apple Inc. ยักษ์ใหญ่สมาร์ทโฟนพรีเมียมของสหรัฐ พยายามทำเหมือนว่าจะไม่ผลิต iPhone ราคาถูกออกมา แต่ท้ายที่สุดก็เปิดตัว iPhone SE (2020) ในราคาเริ่มต้น 399 ดอลลาร์ หรือราคาในไทย 14,900 บาท ซึ่งมีดีไซน์เดียวกับ iPhone 8 และราคาใกล้เคียงกับ iPhone SE รุ่นดั้งเดิมที่เปิดตัวในปี 2559 และมีราคาเริ่มต้น 16,800 บาทในขณะนั้น

แม้ว่าดีไซน์ภายนอกของ iPhone SE จะเหมือนกับ iPhone 8 แต่ระบบซอฟต์แวร์ภายในของรุ่นใหม่ถือว่าทรงพลังกว่ามาก และเมื่อเทียบกับราคาย่อมเยาเพียง 399 ดอลลาร์ ทำให้เป็นจุดขายสำคัญของ iPhone SE รุ่นปี 2020

ขณะที่ในปัจจุบัน iPhone 8 เลิกวางจำหน่ายไปแล้วและหน้าเว็บของ iPhone 8 รุ่นเดิมบนเว็บไซต์ทางการของ Apple ก็เชื่อมไปยังหน้าเว็บประกาศเปิดตัว iPhone SE รุ่นล่าสุดแทน

นอกจากนี้ การอัพเดตซอฟต์แวร์ใน iPhone SE ด้วยชิปประมวลผล A13 จะทำให้มือถือรุ่นใหม่ใช้งานได้อีกอย่างน้อย 3 ปี ซึ่งถือว่านานกว่ารุ่นอื่นมาก ขณะเดียวกัน Apple ยังเพิ่มฟีเจอร์ใหม่อื่น ๆ รวมถึงระบบปฏิบัติการ iOS เวอร์ชั่นล่าสุด และระบบความปลอดภัยที่เข้มงวดขึ้น

ช่วงหลายปีที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าบริษัทยักษ์ใหญ่รายนี้ค่อย ๆ ลดราคา iPhone รุ่นใหม่ลงมา ทำให้สมาร์ทโฟนค่าย Apple อยู่ในความสนใจของกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการจ่ายเงินระดับ “กลาง ๆ” เพื่อเป็นเจ้าของ iPhone

  • สงครามราคาไม่สิ้นสุด

กลุ่มมือถือราคาระดับกลาง กลายเป็นสมรภูมิใหม่ในการแย่งชิงยอดขายสำหรับค่ายมือถือทั่วโลก Apple เองยอมรับว่า มือถือรุ่นขายดีที่สุดในตระกูล iPhone คือ “iPhone 11” ซึ่งมีราคาเริ่มต้น 699 ดอลลาร์ ในปีก่อน และสเปคด้อยกว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับรุ่นที่เปิดตัวพร้อมกันอย่าง "iPhone 11 Pro"

ข้อมูลจากบริษัทวิจัย เคาน์เตอร์พอยท์ รีเสิร์ช ระบุว่า iPhone 11 เป็นมือถือรุ่นมาแรง (เกือบ) แซงทางโค้งในปี 2562 โดยครองส่วนแบ่งยอดขายทั่วโลกอยู่ที่ 2.1% ในปีที่แล้ว หลังวางจำหน่ายช่วงสิ้นเดือน ก.ย.

ส่วนแบ่งของ iPhone 11 เป็นรองเพียง “iPhone XR” (ราคาเริ่มต้น 749 ดอลลาร์ในปี 2562) ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นขายดีที่สุดในโลก ด้วยส่วนแบ่งยอดขาย 3.0% ในปีที่แล้ว แต่ต้องไม่ลืมว่า iPhone XR ได้เปรียบ iPhone 11 ตรงที่ได้วางจำหน่ายก่อนตั้งแต่ต้นปี 2562

นั่นหมายความว่า หาก iPhone 11 ซึ่งมีราคาถูกกว่า วางจำหน่ายทั่วโลกพร้อมกับ iPhone XR ก็มีโอกาสจะทำยอดขายแซงหน้าเป็นอันดับ 1 ได้

ส่วนมือถือของคู่แข่งอย่าง “ซัมซุง กาแล็คซี่ A50” จากยักษ์ใหญ่เกาหลีใต้ ครองส่วนแบ่งยอดขายทั่วโลกอยู่ที่ 1.8%

ในทำเนียบมือถือ 10 รุ่นขายดีที่สุดในปีก่อนของเคาน์เตอร์พอยท์ รีเสิร์ช พบว่า Apple และซัมซุงครองพื้นที่ส่วนใหญ่รวมกันถึง 9 รุ่น ส่วนอีก 1 รุ่นเป็น “ออปโป้” รุ่น A5 แบรนด์มือถือชื่อดังจากจีน

ส่วนการที่ Apple เลือกปัดฝุ่นหรือรีบูต iPhone SE ในปีนี้ แสดงให้เห็นว่า Apple ได้เรียนรู้จาก “ความผิดพลาด” ของ iPhone รุ่นก่อน ๆ ที่ตนอ้างว่าเป็นรุ่นราคาประหยัด

ตัวอย่างเช่น “iPhone 5C” หรือ iPhone 5 เวอร์ชั่นกรอบพลาสติก เปิดตัวเมื่อปี 2556 โดยไม่ได้เป็น “ตัวความหวัง” ของ Apple แต่ตั้งราคาเริ่มต้นไว้ที่ 19,500 บาทในปีนั้น ซึ่งถือว่าราคาแรงไม่เบาสำหรับมือถือเคสพลาสติก

  • ราคาเป็นตัวแปรสำคัญที่สุด

ปี 2563 น่าจะเป็นปีผู้บริโภคทั่วโลกต้องการ “iPhone รุ่นราคาถูกลง” มากขึ้น ซึ่งจะเปรียบเสมือนจุดกึ่งกลางของมือถือราคาเอื้อมถึงได้และมือถือที่รูปลักษณ์สวยหรูโดนใจ

บรรดานักวิเคราะห์มองว่า iPhone SE ซึ่งดีไซน์เหมือนกับ iPhone 8 แต่มีขนาดเล็กกว่า ถือเป็น “ตัวเลือกที่ใช่” สำหรับผู้บริโภคที่ต้องการใช้งานต่อเนื่องไปอีก 2-3 ปี

แมตต์ สไวเดอร์ บรรณาธิการจัดการระดับโลกของเว็บไซต์เทคเรดาร์ (Techradar) ยอมรับว่า iPhone SE รุ่นล่าสุดเป็นมือถือที่เขาจะซื้อให้พ่อและแม่ใช้

ในขณะที่ Apple เน้นโปรโมทบริการของตนมากขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่ Apple Music, Apple Arcade และความครบครันของ App Store ก็ยังเป็นหนึ่งในจุดขายสำคัญ แต่กลุ่มลูกค้าในอนาคตอาจจะไม่สนใจฟีเจอร์ 50% ที่ iPhone 11 มีอยู่ แต่จะหันไปใช้มือถือหน้าจอเล็กกว่าที่มีปุ่มกดเหมือนรุ่นก่อน ๆ

แม้จะยังไม่รู้ว่า iPhone SE จะแจ้งเกิดหรือประสบความสำเร็จด้านยอดขายในปีนี้หรือไม่ แต่สิ่งหนึ่งที่ Apple คาดหวังว่าจะเป็นตัวดึงดูดลูกค้าก็คือ “กล้อง”

ข้อมูลจากเว็บไซต์ Apple บอกว่า iPhone SE มาพร้อมกับกล้องหลัง 1 ตัวความละเอียด 12 ล้านพิกเซลและกล้องหน้าแบบสมาร์ท HDR โดยใช้เซ็นเซอร์คล้ายกับที่ใช้ใน iPhone 8

อย่างไรก็ตาม Apple หมายมั่นปั้นมือว่า ชิปประมวลผล A13 ใน iPhone SE ที่ทำงานได้รวดเร็วที่สุด จะเป็น “ตัวเปลี่ยนเกม” โดยจะทำให้รูปที่ถ่ายจากกล้องเดี่ยวของ iPhone รุ่นใหม่ออกมาสวยจนคนถ่ายยังต้องตะลึง

หาก iPhone SE รุ่นใหม่แจ้งเกิดเป็นมือถือที่ถ่ายรูปสวยได้และได้รับความนิยมมากกว่า iPhone XR คาดว่า Apple ก็จะมีข้อเสนอที่น่าสนใจกว่าเดิมสำหรับผู้บริโภคในอนาคต นั่นคือ iPhone ที่มาพร้อมกับกล้องคุณภาพ และน่าจะดึงดูดกลุ่มผู้ใช้ใหม่ ๆ ได้ไม่น้อย

บางคนที่เห็นคุณสมบัติ iPhone SE แล้ว อาจคิดว่า รุ่นล่าสุดน่าจะออกมาดีกว่านี้ เช่น ใช้แบตเตอรี่ที่ใหญ่กว่า หรือใช้งานได้นานกว่ารุ่น iPhone 8 แต่เมื่อ Apple เปิดตัวมาแบบนี้แสดงว่า บริษัทคงเชื่อมั่นว่า สเปคปัจจุบันของ iPhone SE เหมาะสมกับราคาระดับย่อมเยาแล้ว และน่าจะแข่งขันกับมือถือเจ้าอื่นได้ในตลาดสมาร์ทโฟนปีนี้