สเปนย้ายศพนายพลเผด็จการ 'ฟรานซิสโก ฟรังโก'

สเปนตัดสินใจย้ายศพอาบขี้ผึ้งของนายพลฟรานซิสโก ฟรังโก ออกจากอนุสรณ์สถานแห่งชาติอันโอ่อ่าอลังการ ไปไว้ในสุสานที่เล็กกว่านี้เพื่อแสดงออกถึงการไม่ให้เกียรติผู้นำเผด็จการ การขุดศพนายพลรายนี้ขึ้นมาถือเป็นการเปิดรอยแผลประวัติศาสตร์สเปนอีกครั้งหนึ่ง
ตั้งแต่รับตำแหน่งเมื่อเดือน มิ.ย.2561 นายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชสของสเปน ก็ให้ความสำคัญกับการย้ายศพ “ท่านผู้นำ” เป็นอันดับหนึ่ง โดยให้เหตุผลว่า สเปนไม่ควรให้เกียรติชายที่ปกครองประเทศแบบเผด็จการอีกต่อไป
“นี่คือชัยชนะอันยิ่งใหญ่เพื่อศักดิ์ศรี ความทรงจำ ความยุติธรรมการเยียวยา และเพื่อประชาธิปไตยสเปน” ซานเชสอธิบายเหตุผลการต้องย้ายศพฟรังโกไปไว้ที่อื่น
สเปนเคยเกิดสงครามกลางเมืองนองเลือดระหว่างปี 2479-2482 ชนวนเหตุมาจากฟรังโกไม่ยอมรับรัฐบาลสาธารณรัฐที่มาจากการเลือกตั้ง เขานำกองกำลังชาตินิยมเข้าต่อต้านจนได้ชัยชนะ หลังจากนั้นฟรังโกปกครองประเทศอย่างเหี้ยมโหด เป็นเวลา 36 ปีจนกระทั่งเสียชีวิตลงในปี 2518 สเปนจึงเปลี่ยนผ่านสู่ระบอบประชาธิปไตย
ศพของเขาถูกฝังในโบสถ์งดงามในหุบเขาของผู้วายชนม์ ห่างจากกรุงมาดริดไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 50 กิโลเมตร ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่่ยวชื่อดังสำหรับผู้มาเยือนและฝ่ายขวาผู้เห็นใจ ทุกวันจะมีดอกไม้สดมาวางหน้าศพ
นายพลฟรังโกสั่งให้สร้างหุบเขาแห่งผู้วายชนม์เมื่อปี 2483 เพื่อรำลึกถึงนักรบคาทอลิกผู้ยิ่งใหญ่ ที่ต่อกรกับพวกนิยมสาธารณรัฐที่ไม่นับถือพระเจ้า การก่อสร้างยาวนานเกือบ 20 ปี โดยบังคับใช้แรงงานนักโทษการเมืองด้วย สถานที่แห่งนี้ถือเป็นสุสานหมู่ใหญ่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป เก็บร่างผู้เสียชีวิตกว่า 30,000 ศพจากทั้งสองฝ่ายที่สู้รับกันในสงครามกลางเมือง
ปี 2550 รัฐบาลสังคมนิยมสมัยนั้น เห็นชอบกฎหมายความทรงจำแห่งประวัติศาสตร์ อนุญาตให้รื้อถอนสัญลักษณ์ทุกอย่างในสมัยฟรังโก และให้ระบุอัตลักษณ์บุคคลศพที่ฝังรวมระหว่างสงครามกลางเมือง กฎหมายฉบับนี้ถูกฝ่ายอนุรักษนิยมกล่าวหาว่า ฝ่ายซ้ายเปิดแผลร้าวในอดีต
ปี 2560 สภาสเปนเห็นชอบข้อมติที่ไม่มีผลทางกฎหมาย เรียกร้องให้ย้ายศพฟรังโกออกไปจากหุบเขาแห่งผู้วายชนม์ แต่รัฐบาลอนุรักษนิยมของมาริอาโน ราฮอย เพิกเฉย
ราฮอยซึ่งบริหารประเทศระหว่างปี 2554-2561 กล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า รัฐบาลของเขาไม่เคยใช้เงินปฏิบัติตามกฎหมายฉบับนี้เลย
การขุดศพนายพลฟรังโกได้สร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชนชาวสเปน ผลการสำรวจความคิดเห็นของหนังสือพิมพ์รายวันเอลมันโด เมื่อไม่กี่วันก่อนพบว่า ผู้ให้ข้อมูล 43% สนับสนุนให้ย้ายศพไปไว้ที่อื่น 32.5% ไม่เห็นด้วย ที่เหลือไม่ตัดสินใจ
ปฏิบัติการย้ายศพวานนี้ (24 ต.ค.) เริ่มต้นขึ้นในเวลา 10.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น สมาชิกในครอบครัวผู้นำเผด็จการผู้ล่วงลับจำนวน 22 คน มาดูการปฏิบัติหน้าที่พร้อมๆ กับเจ้าหน้าที่ในรัฐบาล ขณะที่กองทัพนักข่าวหลายร้อยคนคอยทำข่าวอยู่ด้านนอก เมื่อขุดศพขึ้นมาแล้วและสภาพอากาศเป็นใจ ร่างของฟรังโกจะถูกขนโดยเฮลิคอปเตอร์ไปที่เมืองเอลพาร์โด เพื่อฝังอีกครั้งเคียงข้างร่างของภรรยาในสุสานมิงโกรูบิโอ ติดกับกรุงมาดริดทางตอนเหนือ







