"ไซลอต"ขยายฐานในไทย หวังครองที่1ฟินเทคอาเซียน

"ไซลอต"ขยายฐานในไทย  หวังครองที่1ฟินเทคอาเซียน

แนวโน้มตลาดเกิดใหม่ฟินเทคอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีความต้องการใช้เทคโนโลยีปัญหาประดิษฐ์ (เอไอ)โซลูชั่นช่วยพัฒนาสถาบันการเงิน และบูรณาการจัดการระบบการเงินอย่างชาญฉลาด และมีประสิทธิภาพให้กับสถาบันการเงิน และธนาคารต่างๆ

"ไซลอต"ขยายฐานในไทย  หวังครองที่1ฟินเทคอาเซียน

แนวโน้มตลาดเกิดใหม่ฟินเทคอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีความต้องการใช้เทคโนโลยีปัญหาประดิษฐ์ (เอไอ)โซลูชั่นช่วยพัฒนาสถาบันการเงิน และบูรณาการจัดการระบบการเงินอย่างชาญฉลาด และมีประสิทธิภาพให้กับสถาบันการเงิน และธนาคารต่างๆ

บริษัทไซลอต (Silot) หนึ่งในผู้นำทางธุรกิจเทคโนโลยีฟินเทคที่ยืนหยัดอยู่ชั้นแนวหน้าในเอเชีย มองว่า ไทยเป็นตลาดฟินเทคที่น่าสนใจแก่นักธุรกิจต่างชาติเป็นอันดับ2 ของภูมิภาค มุ่งขับเคลื่อนประเทศไปสู่ดิจิทัล ซึ่งปัจจุบันมีคนไทยใช้ธุรกิจการเงินอิเล็กทรอนิกส์เป็นอันหนึ่งของโลก หรือคิดเป็นสัดส่วน 74%ของคนไทยใช้โมบายแบงก์กิ้ง และรัฐบาลไทยมีนโยบายไทยแลนด์4.0

แอนดี้ ลี ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ผู้บริหารบริษัทไซลอต เปิดเผยกลยุทธ์ทางการตลาดในปี 2562 ว่า ไซลอตเตรียมที่จะขยายตลาดและมองหาพันธมิตรทางธุรกิจเพิ่มอีกในประเทศไทย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย หลังจากในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา ไซลอตประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในการดำเนินธุรกิจฟินเทคในประเทศเหล่านี้

อีกทั้ง ไซลอตวางแผนจะพัฒนานวัตกรรมทางการเงิน และวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีknowledge graph ให้ก้าวหน้ากว่าเดิม ซึ่งเป็นจุดแข็งทางเทคโนโลนีของไซลอต และนี่เป็นแผนดำเนินธุรกิจเชิงรุกต่อเนื่อง จากที่บริษัทได้ประกาศความสำเร็จในการระดมทุน 8 ล้านดอลลาร์ในรอบซีรีย์เอไปเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา

ในส่วนประเทศไทย ไซลอตได้จับมือธนาคารกรุงศรีอยุธยาเข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ โดยที่ธนาคารกรุงศรีฯเป็นหนึ่งในนักลงทุนในรอบซีรีย์เอ ซึ่งไซลอตได้เข้าไปพัฒนาแอพพลิเคชั่น และแพลตฟอร์มอีแบงก์กิ้งที่ล้ำสมัยและตอบทุกโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้กับธนาคารกรุงศรีฯ

“ ไซลอตไม่ใช่บริษัทฟินเทคที่ขายเฉพาะเทคโนโลยีให้กับลูกค้า แต่ตั้งใจจะเป็นพาร์ทเนอร์ที่ดี ด้วยการทำความเข้าใจถึงความต้องการของแต่ละสถาบันการเงิน โดยการพัฒนานวัตกรรมการเงินให้ตอบโจทย์ลูกค้า รวมถึงสร้างความพร้อมให้กับลูกค้าในช่วงเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคการเงินอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นเทรนด์โลกที่ยากจะหลีกเลี่ยงได้” ซีอีโอบริษัทไซลอตระบุ

ปัจจุบัน ไซลอตมีลูกค้าเป็นธนาคารใหญ่ๆในภูมิภาคเอเชียไม่ว่าจะเป็นธนาคารโตเกียว-มิตรซูบิชิ ยูเอฟเจ อันดับหนึ่งของญี่ปุ่น และธนาคารโนบุในกลุ่มLippoซึ่งเป็นธุรกิจนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของอินโดนีเซีย ขณะเดียวกันยังได้เปิดให้บริการแพลตฟอร์มการชำระเงินคิวอาร์โค้ดแบบครบวงจรในออสเตรเลีย ไ นอกจากนี้ ไซลอตวางแผนไว้ว่า ในครึ่งปีหลังของปี 2562 ไซลอตมีแผนที่จะเจาะตลาดในประเทศมาเลเซีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) หวังเพิ่มศักยภาพปรับบทบาทให้ไซลอตเป็นผู้เล่นในตลาดฟินเทคระดับโลก

แอนดี้มองว่า ไทยเป็นตลาดฟินเทคขนาดใหญ่ และไทยก็เป็นประเทศแรกที่มีความคิดริเริ่มใช้ฟินเทคในกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมซึ่งสามารถยกระดับเป็นศูนย์กลางฟินเทคในกลุ่มภูมิภาค CLMV ได้สิ่งเหล่านี้ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติโดยไซลอตมองเห็นโอกาสทางธุรกิจที่สามารถขยายตลาดไปยังเวียดนาม หรือเมียนมา ที่มีแนวโน้มการเติบโตตลาดฟินเทคมากขึ้น

เช่นเดียวกับการที่ไซลอตวางยุทธศาสตร์เจาะตลาดอินโดนีเซียที่มุ่งขยายฐานลูกค้าต่อไปยังฟิลิปปินส์ หรือการวางแผนบุกตลาดในยูเออี หวังส่งเสริมความเชื่อมั่นและสร้างลูกค้าที่เป็นธนาคารในภูมิภาคเอเชียตะวันออกกลาง

  “เทคโนโลยีของไซลอตได้ถูกพัฒนามาถึงจุดที่ตอบโจทย์ต้องการลูกค้าแบบเชิงลึกซึ่งไซลอตช่วยธนาคารเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้เอไอในการประมวลผลและคิดวิเคราะห์ทางการเงินของลูกค้า จะทำให้กระบวนการต่างๆรวดเร็วยิ่งขึ้น และขยายตัวทางธุรกิจได้ รวมถึงนำเอไอโซลูชั่นในการแก้ไขปัญหาที่ติดขัดต่างๆ เช่น การเชื่อมต่อฐานข้อมูล การปรับปรุงระบบธุรกิจทางการเงินให้กับธนาคาร การเพิ่มประสิทธิภาพงานหรือความสามารถการตัดสินใจในการอนุมัติสินเชื่อ เป็นต้น”ประธานเจ้าหน้าที่ผู้บริหารบริษัทไซลอตระบุ

ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ไซลอตได้มุ่งพัฒนาเทคโนโลยีที่เน้นการขยายแพลตฟอร์มด้านการธนาคาร (Silot Banking Platform หรือSBP) ที่ช่วยมอบอำนาจการดำเนินงานแก่สถาบันการเงินโดยให้บริการที่สำคัญ 3 ส่วนได้แก่ 1.Silot Payment Engine เป็นระบบการชำระเงินแบบครบวงจรที่สนับสนุนวิธีการชำระเงินหลัก ๆ ทั้งการชำระเงินผ่านบัตรแบบเก่าและการชำระเงินบนมือถือในรูปแบบใหม่ในตลาดการเงิน

2.Silot Merchant Suite เป็นแพลตฟอร์มแนะนำการเริ่มกระบวนการทำงานใหม่และการจัดการด้านการค้าแบบครบวงจรที่สามารถใช้สำหรับทำการค้าได้ทุกช่องทางการชำระเงิน และ3.Silot Guardian ระบบต่อต้านการทุจริตและต่อต้านการฟอกเงินแบบครบวงจรที่สร้างขึ้นเพื่อป้องกันกิจกรรมต่าง ๆ ในการดำเนินงานและการทำธุรกรรมผ่านทุกช่องทางการชำระเงิน

แอนดี้ กล่าวย้ำเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยว่า เทคโนโลยีที่ไซลอตใช้เป็นระบบปฏิบัติการให้กับระบบของธนาคาร เราไม่สามารถนำเอาข้อมูลลูกค้าจของธนาคารออกมาได้ ดังนั้น เทคโนโลยีเรามีความปลอดภัย อีกทั้งทุกขั้นตอนการให้บริการจะต้องผ่านระบบรักษาความปลอดภัยชั้นสูงที่ธนาคารเป็นผู้กำหนด นอกจากนี้ การที่ไซลอตได้รับรางวัล TheOverall Winter of Visa's Everywhere Initiative ในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และยังเป็นเพียงบริษัทเดียวจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วม MasterCard Start Path Program ถือเป็นสิ่งยืนยันว่า เทคโนโลยีของไซลอตมีเสถียรภาพและความปลอดภัย