ประธานเฟดเล็งเลิกปรับลดงบดุลปีนี้

ประธานเฟดเล็งเลิกปรับลดงบดุลปีนี้

นายพาวเวล กล่าวว่า แม้ว่าการปิดหน่วยงานรัฐบาล (ชัตดาวน์) เป็นเวลา 35 วันจะสร้างความยากลำบากต่อเจ้าหน้าที่รัฐบาล และชาวสหรัฐจำนวนมาก แต่ก็ได้ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจไม่มากนัก และจะได้รับการชดเชยในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า

นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)แถลงผลงานรอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสเป็นวันที่ 2 ในวันพุธ(27 ก.พ.) เนื้อหาส่วนใหญ่ที่กล่าวต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ คล้ายคลึงกับที่เขากล่าวต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันแรก

โดยระบุว่า เฟดจะใช้ความอดทนในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และการตัดสินใจด้านนโยบายอัตราดอกเบี้ยจะขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจที่เฟดได้รับ

เศรษฐกิจของสหรัฐมีความแข็งแกร่ง แต่ก็ยังคงมีความเสี่ยง ซึ่งเฟดกำลังจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพร้อมที่จะปรับนโยบาย หากมีความจำเป็น 

ทั้งนี้ เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในปีที่แล้ว มีการเติบโตใกล้ระดับ 3% และจะชะลอตัวลงเล็กน้อยในปีนี้ ขณะที่การจ้างงานและเงินเฟ้ออยู่ใกล้ระดับเป้าหมายของเฟด

นายพาวเวล ระบุว่า เฟดจะจับตาเศรษฐกิจจีนและยุโรป รวมทั้งการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (เบร็กซิท) และการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า อีกทั้งเฟดพร้อมที่จะปรับรายละเอียดของการปรับลดงบดุล โดยจะขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจและการเงิน ส่วนในระยะยาว ขนาดงบดุลของเฟดจะถูกกำหนดจากอุปสงค์สำหรับการก่อหนี้ของเฟด ซึ่งได้แก่ สกุลเงิน และทุนสำรองธนาคาร

นายพาวเวล  กล่าวว่า เฟดใกล้ที่จะประกาศกำหนดเวลาในการยุติการปรับลดงบดุล และเขายืนยันว่าเฟดจะยุติการปรับลดงบดุลภายในปีนี้ หลังจากที่เฟดได้เริ่มการปรับลดงบดุลในเดือนต.ค.2560 โดยขณะนั้น งบดุลของเฟดมีมูลค่าสูงกว่า 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ และขณะนี้อยู่ที่ระดับ 4 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งในการปรับลดงบดุลนั้น เฟดจะปล่อยให้พันธบัตรจำนวนหนึ่งครบอายุโดยไม่มีการนำรายได้ไปลงทุนในพันธบัตรใหม่ ซึ่งวงเงินการปรับลดงบดุลสูงสุดคือ 5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน

ขณะเดียวกัน ในช่วงตอบข้อซักถามของคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ นายพาวเวลยืนยันว่า การตัดสินใจด้านอัตราดอกเบี้ยของเฟด ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการของเฟด ไม่ถูกกดดันจากปัจจัยการเมือง แม้ว่าเฟดถูกโจมตีจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เกี่ยวกับนโยบายปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย