ดาวโจนส์ปิดทะยานกว่า 100 จุด

ดาวโจนส์ปิดทะยานกว่า 100 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันอังคาร (12ธ.ค.)ตามเวลาท้องถิ่น ทะยาน 118 จุด เพราะได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มการเงิน ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มการประชุมนโยบายการเงิน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวขึ้น 118.77 จุดหรือ 0.49% ปิดที่ 24,504.8 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500  เพิ่มขึ้น 4.12 จุดหรือ 0.15% ปิดที่ 2,664.11 จุด และดัชนีแนสแด็ก ลบ 12.76  จุดหรือ 0.19% ปิดตลาดที่ 6,862.32 จุด

ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มการเงินพุ่งขึ้นนำตลาดวันนี้ ขณะที่หุ้นโบอิ้งทะยานขึ้นมากที่สุดในการซื้อขายช่วงแรก ขานรับข่าวการเพิ่มการจ่ายเงินปันผล และการที่บริษัทอนุมัติการซื้อคืนหุ้นจำนวน 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์

เฟดจะเริ่มการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 12 ตามเวลาท้องถิ่น และสิ้นสุดในวันที่13  โดยมีการคาดการณ์กันว่า เฟดจะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้เป็นครั้งที่ 3 ในปีนี้ หลังจากปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.และมิ.ย.

ซีเอ็มอี กรุ๊ป ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือเฟดวอทช์ วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสถึง 87% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมสัปดาห์นี้

นอกจากนี้ การเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (พีพีไอ) ของสหรัฐที่พุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนพ.ย. ก็เป็นปัจจัยสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเช่นกัน โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนี พีพีไอ เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนพ.ย.เมื่อเทียบรายเดือน โดยได้เพิ่มขึ้น 0.4% ติดต่อกัน 3 เดือน การดีดตัวของดัชนีพีพีไอ ได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน

เมื่อเทียบรายปี ดัชนีพีพีไอ พุ่งขึ้น 3.1% ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2555 หลังจากเพิ่มขึ้น 2.8% ในเดือนต.ค.

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนีพีพีไอปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนพ.ย.เมื่อเทียบรายเดือน และเพิ่มขึ้น 2.9% เมื่อเทียบรายปี

ส่วนดัชนีพีพีไอพื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหาร, พลังงาน และภาคบริการ เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% เป็นเวลา 2 เดือนติดต่อกัน

เมื่อเทียบรายปี ดัชนีพีพีไอพื้นฐาน เพิ่มขึ้น 2.4% ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2557 หลังจากดีดตัวขึ้น 2.3% ในเดือนต.ค.