'จอร์แดน' ใช้เทคนิค 'ฝนหลวง' แก้ขาดแคลนน้ำ

'จอร์แดน' ใช้เทคนิค 'ฝนหลวง' แก้ขาดแคลนน้ำ

โครงการฝนหลวง นอกจากช่วยแก้ปัญหาภัยแล้งในไทยแล้ว โครงการนี้ยังได้รับความสนใจจากจอร์แดน โดยขอพระราชทานอนุญาตนำเทคนิคการสร้างฝนเทียม

จอร์แดนเป็นอีกประเทศในโลกที่มีปัญหาเกี่ยวกับปริมาณน้ำฝน และทรัพยากรน้ำไม่เพียงพอต่อประชาชนในประเทศ แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาเมื่อสามารถใช้เทคโนโลยีเข้ามาเป็นตัวช่วยสร้างความสมดุลให้กับธรรมชาติได้ ซึ่งทุกวันนี้ประเทศจอร์แดนนำ “โครงการฝนหลวง” โครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ไปใช้ในการทำฝนเทียม เพื่อกระตุ้น หรือ เพิ่มปริมาณน้ำฝนทั่วประเทศ

เทคโนโลยีฝนเทียมได้รับการพัฒนาขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2512 โดยเป็นโครงการที่เกิดขึ้นจากพระราชดำริส่วนพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อสร้างฝนเทียมสำหรับบรรเทาปัญหาภัยแล้งและการขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตรของประเทศไทย พระองค์ทรงค้นพบเทคนิคใหม่ในการเพิ่มความหนาแน่นของเมฆ ที่จะมีผลต่อเนื่องในการช่วยเพิ่มปริมาณฝนตกมากขึ้น

โมฮัมหมัด ซามาวี อธิบดีกระทรวงเกษตรของจอร์แดน กล่าวว่า จอร์แดนถูกจัดเป็นประเทศที่ขาดแคลนน้ำอันดับต้น ๆ ของโลก และปัญหานี้ทำให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา เช่น ปัญหาด้านสุขภาพ และด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก ทำให้จอร์แดนยิ่งมีอุณหภูมิสูงขึ้น และฝนไม่ตกตามฤดูกาล

แม้ก่อนหน้านี้ จอร์แดนจะพยายามพัฒนาโครงการฝนเทียมขึ้นมาเองในช่วงปี 2532 -2538 แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ ในที่สุด จึงขอพระราชทานอนุญาตนำเทคนิคการสร้างฝนเทียมของในหลวงรัชกาลที่ 9 ไปใช้ในปี 2552 ซึ่งพระองค์ทรงยินดีถ่ายทอดเทคนิคการทำฝนเทียมไปใช้ให้เกิดประโยชน์

ต่อมา ในช่วงระหว่างเดือน ส.ค. - ก.ย. 2558 รัฐบาลจอร์แดนส่งนักวิชาการ จำนวน 8 คน มารับการฝึกอบรบการทำฝนหลวง และฝึกปฏิบัติการฝนหลวง ที่ประเทศไทยก่อนจะนำเทคนิคนี้ไปใช้ที่ประเทศจอร์แดน และมีการลงนามความเข้าใจระหว่างไทยและจอร์แดนอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 23 มี.ค. 2559 ที่ผ่านมา