เมียนมาร์เจอเรือผู้อพยพ727คน

เมียนมาร์เจอเรือผู้อพยพ727คน

กองทัพเรือเมียนมาร์ ยึดเรือผู้ประมงลำหนึ่ง มีคนอยู่บนเรือทั้งหมด 727 คน

กระทรวงสารนิเทศเมียนมาร์ แถลงผ่านเฟซบุ๊คว่า กองทัพเรือยึดเรือผู้ประมงลำหนึ่ง ซึ่งมีคนอยู่บนเรือทั้งหมด 727 คน ประกอบด้วยชายชาวเบงกาลี 608 คน ผู้หญิง 74 คน และเด็ก 45 คน และได้ลากจูงเรือมายังเกาะใกล้เคียงทางตอนใต้ ใกล้กับสถานที่ที่พบเรือแล้ว


อย่างไรก็ตาม เมียนมาร์ ไม่ได้ให้รายละเอียดว่า คนเหล่านั้นมาจากที่ใด และกำลังมุ่งหน้าไปยังที่ไหน รวมถึงไม่ทราบสัญชาติของคนบนเรือ กระทรวงสารนิเทศเมียนมาร์ ระบุเพียงว่า เป็นชาวเบงกาลี ซึ่งเป็นคำที่เมียนมาร์ใช้เวลาเอ่ยถึงชาวโรฮิงญา รวมถึงผู้อพยพจากบังกลาเทศ โดยจุดที่พบเรือห่างจากชายฝั่งทะเลอันดามัน ไปทางใต้ของเมียนมาร์ 30 ไมล์ทะเล


ด้านนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ของมาเลเซีย แสดงความคิดเห็นผ่านบล็อก "นาจิบราซัคดอทคอม" ว่า ปัญหาผู้อพยพชาวโรฮิงญาควรแก้ไขในระดับอาเซียนโดยได้รับความช่วยเหลือจากประเทศที่ 3 และองค์การระหว่างประเทศ และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ทุกประเทศในอาเซียน จะต้องหาข้อสรุปร่วมกัน ส่วนประเทศที่ 3 ควรแสดงบทบาทเข้ามาช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหา และให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และเขาหวังว่า องค์การระหว่างประเทศ อย่างองค์การความร่วมมืออิสลาม หรือโอไอซี และสหประชาชาติ หรือยูเอ็น จะแสดงบทบาทที่น่านับถือในการแก้ไขปัญหาที่รุนแรงนี้


ผู้นำมาเลเซีย กล่าวด้วยว่า มาเลเซีย ไทย และอินโดนีเซีย ต่างได้รับผลกระทบด้านมนุษยธรรมจากการหลั่้งไหลของชาวโรฮิงญา ซึ่งถือเป็นเรื่องน่าเศร้า แต่เมื่อคำนึงถึงอธิปไตยของชาติแล้ว มาเลเซียจึงไม่อนุญาตให้คนนอกประเทศรุกล้ำพรมแดนเข้ามาได้ง่ายๆ


อย่างไรก็ตาม นายนาจิบเผยว่า ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการค้นหาผู้อพยพในน่านน้ำมาเลเซีย บนพื้นฐานด้านมนุษยธรรมและความเห็นอกเห็นใจ หลังพบชาวโรฮิงญาจำนวนมากรวมทั้งเด็ก ๆ อยู่ในสภาพหิวกระหายและอ่อนล้าอยู่กลางทะเล