กัมพูชารำลึก 35 ปีโค่นเขมรแดง

ผู้รอดชีวิตจากทุ่งสังหารของเขมรแดงหลายพันคน ร่วมรำลึกครบรอบ 35 ปี การล่มสลายของระบอบการปกครองตามแนวลัทธิเหมาอย่างสุดโต่ง
ประชาชนราว 1 หมื่นคนร่วมงานรำลึกซึ่งจัดโดยพรรคประชาชนกัมพูชาหรือซีพีพี ณ หอประชุมเกาะเพชร ภายในงานมีการแสดงดนตรีและการร่ายรำตามแบบเขมรโบราณ โดยผู้นำระดับสูงพรรคซีพีพี ผู้รอดชีวิตจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และครอบครัวเข้าร่วมงานด้วย
ระบอบเขมรแดงสร้างประวัติศาสตร์เลือดให้กับกัมพูชา ด้วยการปกครองที่ทำให้ประชาชนราว 1.7 ล้านคนเสียชีวิตจากความอดอยาก ทำงานหนัก และถูกประหารชีวิต วันที่ 7 มกราคม 2522 กองทัพเวียดนามยึดครองกรุงพนมเปญ ขับไล่ผู้นำเขมรแดง "พลพต" ออกไปอาศัยบริเวณชายแดนประเทศไทยถึง 10 ปี
นายเฮง สัมริน ผู้นำรัฐบาลระหว่างการยึดครองของเวียดนาม กล่าวสุนทรพจน์ในพิธีว่า พรรคประชาชนกัมพูชาจะทำทุกสิ่งเพื่อปกป้องรัฐธรรมนูญ และรัฐบาลภายใต้พระปรมาภิไธย ที่จัดตั้งขึ้นผ่านการเลือกตั้ง
วันครบรอบการสิ้นสุดอำนาจของเขมรแดงเป็นช่วงเวลาสำคัญในประวัติศาสตร์กัมพูชา และหลายคนยังจำได้ถึงความเจ็บปวดของประชาชนภายใต้ระบอบดังกล่าว
หลังถูกขับจากเมืองหลวงจนต้องไปตั้งฐานที่มั่นในป่าบริเวณชายแดนไทยในปี 2522 กองกำลังที่เหลือของนายพลพตยังคงต่อต้านเวียดนาม และเข้าเป็นแนวร่วมกับกษัตริย์นโรดมสีหนุ ขณะที่เวียดนามช่วยตั้งรัฐบาลใหม่ในกรุงพนมเปญ เขมรแดงดำรงอยู่จนถึงปี 2542 ซึ่งผู้นำหลายคนเสียชีวิต มอบตัว หรือถูกจับกุมในเวลาต่อมา
ลูกน้องใกล้ชิดของนายพลพตที่ยังมีชีวิตอยู่มีเพียงนายเคียง เกก เอียฟ หรือสหายดุช และอดีตหัวหน้าคุกตวลสเรง ซึ่งถูกพิพากษาจำคุก 35 ปี จากข้อหาก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติและอื่น ๆ
ผู้นำอาวุโสอีกสองคนคือนายนวน เจีย ผู้นำหมายเลขสอง และอดีตประธานสภาเปรซิเดียมแห่งกัมพูชาประชาธิปไตย "นายเขียว สัมพัน" ถูกดำเนินคดีอยู่ในขณะนี้ ศาลมีกำหนดพิพากษาคดีช่วงครึ่งปีแรก คาดว่าทั้งสองคนอาจถูกจำคุกตลอดชีวิต
ส่วนอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศเขมรแดง "นายเอียง สารี" เสียชีวิตเมื่อปีที่แล้ว ส่วนภรรยา "นางเอียง ธิริต" ร่างกายไม่พร้อมจะรับการพิจารณาคดีจากศาลสูงเขมรแดงได้อีก และมีคำสั่งให้ปล่อยตัวเธอในวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา







