ขุนคลังแย้ม ‘ทรัมป์-สี จิ้นผิง’ ปีหน้าอาจเจอกัน 4 ครั้ง

ขุนคลังแย้ม ‘ทรัมป์-สี จิ้นผิง’ ปีหน้าอาจเจอกัน 4 ครั้ง

รัฐมนตรีคลังสหรัฐเผย ปีหน้าทรัมป์-สี จิ้นผิง อาจพบกันถึงสี่ครั้ง เมื่อต่างฝ่ายต่างต้องการรักษาข้อตกลงสงบศึกการค้าอันเปราะบางเอาไว้

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน นายสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ กล่าวกับสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี เมื่อวันอังคาร (25 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น

“สิ่งที่ผมรู้สึกดีมากคือความสัมพันธ์ระหว่างผู้นำ เราจะเป็นคู่แข่งกันเสมอ นั่นเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่มีสิ่งที่เราสามารถทำร่วมกันได้ไหม? มี” เบสเซนต์กล่าวและว่า นอกจากไปเยือนกรุงปักกิ่งในเดือน เม.ย.แล้ว ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์อาจไปร่วมการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก (เอเปค) ที่นครเสิ่นเจิ้นในเดือน พ.ย.2026 ด้วย

ทั้งนี้ คาดว่าทรัมป์จะเป็นเจ้าภาพต้อนรับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงมาเยือนสหรัฐสองครั้งในปีหน้า ประกอบด้วยการเยือนกรุงวอชิงตันอย่างเป็นทางการ และการประชุมผู้นำกลุ่มประเทศจี20 ที่รีสอร์ตโดรัลของเขา เท่ากับว่าผู้นำทั้งสองมีโอกาสพบกันถึงสี่ครั้ง

“ถ้าพบกันสี่ครั้งในหนึ่งปี ผมคิดว่าจะทำให้ความสัมพันธ์มั่นคงมาก ความมั่นคงเป็นสิ่งดีสำหรับชาวอเมริกันและเศรษฐกิจโลก” เบสเซนต์ย้ำ

ที่ผ่านมาขุนคลังสหรัฐมีบทบาทนำในการรักษาการสงบศึกการค้ากับรัฐบาลปักกิ่งด้วยการเจรจากันหลายรอบในหลายเมืองทั่วโลก ทั้งที่เจนีวา ลอนดอน สต็อกโฮล์ม แมดริด และกัวลาลัมเปอร์

นายเบสเซนต์แสดงความเห็นหลังจากทรัมป์และสีคุยโทรศัพท์กันในวันจันทร์ (24 พ.ย.) ถือเป็นการคุยกันครั้งแรกนับตั้งแต่ได้พบกันที่เมืองปูซาน เกาหลีใต้ เมื่อเดือน ต.ค. รมว.คลังสหรัฐยืนยันว่า ทรัมป์เป็นฝ่ายโทรหา

นายเบสเซนต์กล่าวว่าจีนปฏิบัติตามคำมั่นสัญญา “ตรงตามกำหนดเวลา”  จะซื้อถั่วเหลืองสหรัฐเพิ่มอย่างน้อย 87.5 ล้านตันในอีกสามปีครึ่งข้างหน้า

บลูมเบิร์กรายงานว่า จีนหยุดซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐเนื่องจากความตึงเครียดทางการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้นในปีนี้ และการซื้อถั่วเหลืองสหรัฐถือเป็นประเด็นสำคัญที่ยังคงติดขัดก่อนการเจรจารอบสุดท้าย

นายเบสเซนต์กล่าวด้วยว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างที่เกี่ยวข้องกับเอไอจะ “มหาศาล” ต่อไป แม้คาดการณ์ว่าการใช้จ่ายฝ่ายทุนจะขยายตัว แต่การแข่งขันด้านเทคโนโลยีกับจีนจะเป็นบททดสอบว่าสหรัฐ “ผ่านหรือไม่ผ่าน”

“ถ้าเราไม่รักษาภาวะการนำด้านเอไอของเรา เมื่อนั้นทุกสิ่งทุกอย่างที่เราทำจะตามหลังไปหมด” นายเบสเซนต์กล่าวและว่า จุดยืนของสหรัฐเรื่องไต้หวัน “ไม่เปลี่ยนแปลง” และทรัมป์กับสีเห็นชอบร่วมมือกันยุติสงครามในยูเครน