‘สงคราม 2 ปี’ ทำเศรษฐกิจกาซาล่มสลาย จีดีพีต่อหัวถดถอย 22 ปี ต่ำสุดในโลก

‘สงคราม 2 ปี’ ทำเศรษฐกิจกาซาล่มสลาย จีดีพีต่อหัวถดถอย 22 ปี ต่ำสุดในโลก

สงครามในกาซาที่ยืดเยื้อมานาน 2 ปี ฉุดเศรษฐกิจปาเลสไตน์ล่มสลาย จีดีพีต่อหัวถดถอย 22 ปี เหลือ 5,200 บาทต่อคน ตกต่ำสุดในโลก คาดต้องใช้เวลาฟื้นฟูอีกหลายสิบปี

รายงานของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เปิดเผยว่า สงครามกาซาสองปี และข้อจำกัดทางเศรษฐกิจก่อให้เกิดการล่มสลายในเศรษฐกิจปาเลสไตน์อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และทำลายการเติบโตของเศรษฐกิจที่มีมานานหลายทศวรรษ

“ความเสียหายอย่างรุนแรงต่อโครงสร้างพื้นฐานสินทรัพย์ที่สร้างผลผลิต และบริการสาธารณะ ทำให้ความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและสังคมในดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครองถดถอยลง” รายงานของสำนักงานการค้าและการพัฒนายูเอ็น UNCTAD ระบุ

นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ต่อหัวของชาวปาเลสไตน์ภายในสิ้นปีนี้อาจลดลงกลับไปอยู่ในระดับเดียวกับปี 2003 หรือความก้าวหน้าในการพัฒนาทางเศรษฐกิจถดถอยลงมากถึง 22 ปี

รายงานยังเผยให้เห็นด้วยว่า เศรษฐกิจของกาซาหดตัว 87% ในช่วงปี 2023-2024 ทำให้จีดีพีต่อหัวเหลือเพียง 161 ดอลลาร์ (ราว 5,200 บาท) ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดในโลก

วิกฤติเศรษฐกิจกาซานี้เป็นหนึ่งในสิบวิกฤตการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในโลกนับตั้งแต่ปี 2503 ขนาดของความเสียหายในฉนวนกาซาหลังสงครามสองปีระหว่างอิสราเอลและฮามาส บ่งบอกว่าดินแดนแห่งนี้จะต้องพึ่งพาการสนับสนุนจากนานาชาติเป็นวงกว้าง และอาจต้องใช้เวลาฟื้นฟูหลายสิบปี

รายงานระบุด้วยว่า เวสต์แบงก์ก็กำลังเผชิญกับภาวะถดถอยที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา เนื่องจากข้อจำกัดด้านการเดินทางและการเข้าถึง รวมถึงการสูญเสียโอกาสในทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจ และแม้ว่าสถานการณ์ในเขตเวสต์แบงก์จะไม่เลวร้ายเท่ากาซา แต่รายงานพบว่า ความรุนแรง การขยายตัวของการตั้งถิ่นฐานอย่างรวดเร็ว และข้อจำกัดในการเคลื่อนย้ายแรงงานได้ทำลายเศรษฐกิจในพื้นที่นั้นเช่นกัน ส่งผลให้เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ UNCTAD เริ่มบันทึกข้อมูลในปี 1972

“ความอยู่รอด” ของกาซาตกอยู่ในความเสี่ยง

รายงานของยูเอ็นระบุว่า การบูรณะฉนวนกาซาใหม่อาจมีค่าใช้จ่ายมากกว่า 70,000 ล้านดอลลาร์ และอาจต้องใช้เวลาหลายทศวรรษ 

“ปฏิบัติการทางทหารได้ทำลายเสาหลักแห่งความอยู่รอดทุกประการอย่างหนักตั้งแต่อาหารไปจนถึงที่อยู่อาศัย ไปจนถึงการดูแลสุขภาพ และทำให้กาซา "จมลงสู่เหวที่มนุษย์สร้างขึ้น” รายงานระบุ

และเสริมว่า “การทำลายล้างเมืองอย่างต่อเนื่องทำให้เกิดข้อสงสัยด้านความสามารถของกาซาในการบูรณะตัวเองใหม่เพื่อให้เป็นพื้นที่และสังคมที่น่าอยู่”

รายงานของ UNCTAD ระบุว่า ขนาดของความเสียหายที่เกิดขึ้นในดินแดนดังกล่าวได้ “ก่อให้เกิดวิกฤตการณ์ลูกโซ่ทางเศรษฐกิจ มนุษยธรรม สิ่งแวดล้อม และสังคม เปลี่ยนผ่านจากภาวะถดถอยไปสู่หายนะ” และแม้จะมองโลกในแง่ดีกรณีที่เศรษฐกิจเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักจากความช่วยเหลือของต่างประเทศจำนวนมาก แต่กาซายังคงต้องใช้เวลาหลายทศวรรษกว่าจะกลับไปสู่ระดับความเป็นอยู่ที่ดีก่อนเดือนตุลาคม 2023

UNCTAD ได้เรียกร้องให้มี “แผนการฟื้นฟูที่ครอบคลุม” โดยรวม “การประสานงานความช่วยเหลือระหว่างประเทศการฟื้นฟูระบบโอนเงินทางการคลัง และมาตรการต่างๆ เพื่อลดข้อจำกัดด้านการค้า การเคลื่อนย้าย และการลงทุน”

ในขณะที่ประชากรทั้งหมดในกาซากำลังเผชิญกับ “ความยากจนข้นแค้นหลายมิติอย่างรุนแรง” หน่วยงานของยูเอ็นยังได้เรียกร้องให้นำสวัสดิการรายได้พื้นฐานฉุกเฉินถ้วนหน้า (universal emergency basic income) มาใช้ โดยเป็นการจัดสรรเงินสดรายเดือนให้ประชาชนทุกคนโดยไม่มีเงื่อนไข