ถอดรหัส ‘ทรัมป์’ คุยผู้นำจีน-ญี่ปุ่น เลี่ยงพูดถึงไต้หวัน กำลังวางตัวเป็นกลาง?

ถอดรหัส ‘ทรัมป์’ คุยผู้นำจีน-ญี่ปุ่น เลี่ยงพูดถึงไต้หวัน กำลังวางตัวเป็นกลาง?

ถอดรหัส ‘ทรัมป์’ หารือทางโทรศัพท์ผู้นำจีนและญี่ปุ่น ไม่เอ่ยถึงไต้หวัน เน้นย้ำแค่ความสัมพันธ์ที่ดีกับสองประเทศ หรือสหรัฐกำลังวางตัวเป็นกลาง? ท่ามกลางสัมพันธ์ตึงเครียดระหว่างปักกิ่งและโตเกียว

“โทรหาผมไต้ตลอดเวลา” ซานาเอะ ทาคาอิจิ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เผยบทสนทนาทางโทรศัพท์ครั้งแรกระหว่างเธอและประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ในวันจันทร์ (24 พ.ย.)

การพูดคุยระหว่างสองผู้นำถือเป็นการหารือกันครั้งแรก นับตั้งแต่ที่ผู้นำโตเกียวจุดชนวนให้เกิดการปะทะทางการทูตครั้งใหญ่กับจีน

หลังจากทาคาอิจิสนทนากับทรัมป์เสร็จแล้ว เธอได้พยายามแสดงท่าทีที่ไม่เผยให้เห็นถึงความกังวลใจใดๆ ว่าสหรัฐไม่ได้สนับสนุนเธอ

“ประธานาธิบดีทรัมป์บอกว่า ท่านและดิฉันเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมาก และดิฉันสามารถโทรหาท่านได้ตลอดเวลา” ทาคาอิจิ กล่าวกับผู้สื่อข่าว

นายกฯ ญี่ปุ่นเผยด้วยว่า ทรัมป์ได้อธิบายกับเธอเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีน รวมถึงการหารือทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนในวันจันทร์

ด้านทำเนียบขาวยังไม่ได้ตอบกลับคำขอแสดงความคิดเห็นกับรอยเตอร์สเกี่ยวกับการพูดคุยของทรัมป์กับทาคาอิจิ

จุดเริ่มต้นความตึงเครียดระหว่างจีนและญี่ปุ่นมาจากตอนที่ทาคาอิจิตอบคำถามในสภาในช่วงต้นเดือนว่า หากจีนโจมตีไต้หวันอาจกระตุ้นให้ญี่ปุ่นตอบโต้ทางทหาร จากนั้นปักกิ่งเรียกร้องให้ผู้นำญี่ปุ่นถอนคำพูด และเกิดการปะทะทางการทูตอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งจีนยังได้ห้ามนักท่องเที่ยวจีนเดินทางไปญี่ปุ่นด้วย

อย่างไรก็ตาม หลังเกิดความตึงเครียดระหว่างชาติเอเชียสองประเทศ ทรัมป์ยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ ต่อสาธารณะเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า ความเงียบนี้อาจสร้างความกังวลให้กับเจ้าหน้าที่บางคนในรัฐบาลโตเกียว

สำหรับการหารือระหว่างสีกันทรัมป์ สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สีได้กล่าวกับทรัมป์ว่า การกลับคืนสู่จีนของไต้หวันคือกุญแจสำคัญในวิสัยทัศน์ของปักกิ่งต่อระเบียบโลก

ด้านโช จางไท่ นายกรัฐมนตรีไต้หวัน กล่าวในวันอังคาร (25 พ.ย.) ว่า สำหรับประชากร 23 ล้านคนในเกาะแห่งนี้ การกลับคืนสู่จีนไม่ใช่ทางเลือก

ขณะที่ทรัมป์โพสต์ในทรูธโซเชียลหลังจากการโทรศัพท์คุยกับสี จิ้นผิง โดยกล่าวยกย่องความคืบหน้าในการเจรจาการค้า และระบุว่าความสัมพันธ์กับจีน “แข็งแกร่งอย่างยิ่ง” อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ไม่ได้กล่าวถึงการหารือใดๆ เกี่ยวกับไต้หวันเลย

ด้านมิโนรุ คิฮาระ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีของญี่ปุ่น กล่าวกับผู้สื่อข่าวในวันอังคารว่า

“ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีนที่มั่นคงมีความสำคัญยิ่งต่อประชาคมนานาชาติ รวมถึงญี่ปุ่น” แต่ปฏิเสธแสดงความเห็นเกี่ยวกับคำพูดของสีเรื่องไต้หวันกับปธน.ทรัมป์

เสี่ยงเผชิญหน้าทางทหาร?

เมื่อวันจันทร์ รัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่นได้ประกาศว่า รัฐบาลมีแผนติดตั้งขีปนาวุธในเกาะโยนากุนิที่อยู่ใกล้ไต้หวันมากที่สุด

จากนั้นปักกิ่งได้วิจารณ์แผนติดตั้งหน่วยขีปนาวุธพิสัยกลางจากภาคพื้นดินสู่อากาศในเกาะดังกล่าวโดยบอกว่าความเคลื่อนไหวนี้ได้สร้างความตึงเครียดในภูมิภาค และเสี่ยงทำให้เกิดการเผชิญหน้าทางทหาร

รอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันจันทร์ญี่ปุ่นได้ส่งเครื่องบินขับไล่ขึ้นน่านฟ้าด้วย หลังจากตรวจพบโดรนของจีนขึ้นบินระหว่างเกาะโยนากุนิและไต้หวัน

จนถึงขณะนี้ ทาคาอิจิยังคงปฏิเสธทำตามคำขอของปักกิ่งที่ต้องการให้เธอถอนคำพูดเกี่ยวกับไต้หวัน แต่บอกเพียงว่า โตเกียวมีความเต็มใจที่จะหารือกับปักกิ่งในทุกระดับเพื่อลดความตึงเครียด

สื่อท้องถิ่นรายงานว่า รองนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นได้พบกับเอกอัครราชทูตจีนในกรุงโตเกียวในวันอังคาร เพื่อหารือประเด็นที่เกี่ยวข้องระหว่างสองประเทศและการดำเนินการต่างๆ ในอนาคต

แม้ญี่ปุ่นพยายามเปิดโอกาสในการหารือกับจีน แต่ปักกิ่งได้ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่จะจัดการประชุมเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างทาคาอิจิและนายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียงของจีน นอกรอบการประชุม G20 ที่แอฟริกาใต้เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

นักวิเคราะห์กล่าวว่า นี่เป็นหนึ่งในหลายสัญญาณที่บ่งชี้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นและจีนอาจดำเนินไปอย่างเย็นชาอีกนานใต้การนำของทาคาอิจิ ผู้นำชาตินิยมหัวรุนแรง ที่ได้รับคะแนนนิยมจากสาธารณชนสูงนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนที่แล้ว

จุดยืนทรัมป์ต่อไต้หวันไม่แน่นอน

แม้ว่าทรัมป์ไม่ได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับข้อพิพาทเรื่องไต้หวันระหว่างญี่ปุ่นและจีนโดยตรง แต่จอร์จ กลาสเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำญี่ปุ่นกล่าวว่า สหรัฐสนับสนุนโตเกียว แม้เผชิญกับ “การบีบบังคับ” จากจีน

เจ้าหน้าที่บางคนในรัฐบาลโตเกียวกังวลมานานแล้วว่า ทรัมป์อาจลดการสนับสนุนไต้หวันเพื่อบรรลุข้อตกลงการค้ากับจีน ซึ่งอาจทำให้ปักกิ่งอาจหาญมากขึ้น และจุดชนวนความขัดแย้งในเอเชียตะวันออก

เซโกะ มิมากิ ศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองและการทูตสหรัฐจากมหาวิทยาลัยโดชิชะของญี่ปุ่น เขียนในบทบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์อาซาฮีเมื่อวันอังคารว่า รัฐบาลทรัมป์ไม่อาจตัดความเป็นไปได้ที่จะสละประเด็นไต้หวัน เพื่อ ‘ข้อตกลง’ ทางการค้ากับจีน

“ในการกำหนดนโยบายต่อจีน สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจแนวโน้มและความเสี่ยงเหล่านี้ที่มีอยู่ในรัฐบาลทรัมป์อย่างถ่องแท้” เธอกล่าวเสริม