เซเลนสกีประกาศ พร้อมทำตาม ‘แผนสหรัฐ’ ยุติสงครามในยูเครน

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน ประเทศยุโรปกำลังต่อต้านแผนที่สหรัฐหนุนหลังซึ่งตามการเปิดเผยของแหล่งข่าวจะกำหนดให้ยูเครนต้องสละดินแดนเพิ่ม และปลดอาวุธบางส่วน อันเป็นเงื่อนไขที่พันธมิตรของยูเครน มองมาตลอดว่าเทียบเท่ากับการยอมจำนน

แต่ประธานาธิบดียูเครน ซึ่งได้รับร่างแผนการดังกล่าวแล้ว หลังพบกับแดเนียล ดริสคอลล์ เลขาธิการกองทัพบกในกรุงเคียฟ เมื่อวันพฤหัสบดี (20 พ.ย.68) กล่าวว่า ยูเครน และสหรัฐอเมริกาจะทำงานร่วมกันในองค์ประกอบของแผน

เคียฟพร้อมสำหรับงาน ‘สร้างสรรค์’

“ทีมของเรา ทั้งยูเครน และสหรัฐอเมริกา จะทำงานในประเด็นต่างๆ ของแผนการเพื่อยุติสงคราม”

“เราพร้อมสำหรับการทำงานที่สร้างสรรค์ ซื่อสัตย์ และรวดเร็ว” เซเลนสกี ระบุบนเทเลแกรม

สำนักงานประธานาธิบดียูเครน ไม่ได้แสดงความคิดเห็นโดยตรงเกี่ยวกับเนื้อหาของแผน 28 ข้อ ซึ่งยังไม่ได้มีการเผยแพร่ แต่กล่าวว่า ผู้นำยูเครนได้ “ระบุหลักการพื้นฐานที่สำคัญต่อประชาชนของเรา”

“ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ประธานาธิบดียูเครน คาดหวังที่จะหารือกับประธานาธิบดีทรัมป์ถึงโอกาสทางการทูตที่มีอยู่ และประเด็นสำคัญที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุสันติภาพ”

ทรัมป์ และเซเลนสกี เคยปะทะกันต่อหน้ากล้องโทรทัศน์ในการพบกันที่ทำเนียบขาวเมื่อเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นความหายนะสำหรับผู้นำยูเครน แต่การพูดคุยเป็นไปอย่างราบรื่นมากขึ้นเมื่อเขาเยือนทำเนียบขาวในฤดูร้อนนี้

ด้านทำเนียบขาว กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลทรัมป์ได้พบกับเจ้าหน้าที่ยูเครนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อหารือเกี่ยวกับแผนดังกล่าว

นางสาวคาโรลีน ลีวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว แถลงกับผู้สื่อข่าวว่า นายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนายสตีฟ วิตคอฟฟ์ ทูตพิเศษของสหรัฐได้เข้าร่วมในการประชุม และรัฐบาลวอชิงตันกำลังพูดคุยอย่างดีกับทั้งสองฝ่ายเกี่ยวกับวิธีการยุติสงคราม

รัสเซียควบคุมคูเปียนสค์

การทูตที่เร่งรีบของสหรัฐเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่น่าลำบากใจสำหรับรัฐบาลเคียฟ เนื่องจากกองทหารกำลังเพลี่ยงพล้ำในสนามรบ และรัฐบาลของเซเลนสกีถูกบั่นทอนด้วยเรื่องทุจริตฉาวรัฐสภาได้ปลดรัฐมนตรีคณะรัฐมนตรีสองคนเมื่อวันพุธ (19 พ.ย.68)

ขณะที่รัฐบาลมอสโกมองข้ามแผนการใหม่ริเริ่มโดยสหรัฐ

“ขณะนี้ยังไม่มีการปรึกษาหารือกัน แน่นอนว่ามีการติดต่อมา แต่ยังไม่มีกระบวนการที่เรียกได้ว่าการปรึกษาหารือ” นายดิมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวและว่า รัสเซียไม่มีอะไรจะเพิ่มเติมเกินกว่าจุดยืนที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ได้กล่าวไว้ในการประชุมสุดยอดกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐเมื่อเดือนสิงหาคม โดยเสริมว่าข้อตกลงสันติภาพใดๆ จะต้องกล่าวถึง “รากเหง้าของความขัดแย้ง” ซึ่งเป็นวลีที่มอสโกใช้มานานเพื่ออ้างถึงข้อเรียกร้องของตน

ในสงครามที่ยืดเยื้อเกือบสี่ปี กองทหารรัสเซียเข้ายึดครองเกือบหนึ่งในห้าของยูเครน และกำลังรุกคืบอย่างช้าๆ ขณะเดียวกันก็ระดมยิงแหล่งพลังงานและเมืองต่างๆ ของยูเครนเมื่อฤดูหนาวเริ่มคืบคลานเข้ามา

ทำเนียบเครมลิน กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี ว่า ปูตินได้เยี่ยมชมจุดบัญชาการของกลุ่มกองกำลังรัสเซีย “ตะวันตก” ซึ่งเขาได้พบกับวาเลรี เกราซิมอฟ เสนาธิการทหารสูงสุดของรัสเซีย และเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงคนอื่นๆ

เกราซิมอฟ แจ้งปูตินว่ากองกำลังรัสเซียได้เข้าควบคุมเมืองคูเปียนสค์(Kupiansk) ของยูเครนแล้ว ซึ่งเป็นเมืองที่มอสโก มองว่าเป็นเป้าหมายสำคัญในการผลักดันไปทางตะวันตกผ่านภาคกลาง และภาคตะวันออกของยูเครน

รอยเตอร์ไม่สามารถตรวจสอบคำกล่าวของเขาได้อย่างอิสระ

นอกจากนี้กองกำลังรัสเซียยังพร้อมที่จะยึดครองศูนย์กลางทางรถไฟตะวันออกที่เสียหายอย่างโปครอฟสค์

วิดีโอที่เผยแพร่โดยกระทรวงกลาโหมรัสเซียเมื่อวันพฤหัสบดีแสดงให้เห็นว่าทหารรัสเซียกำลังเคลื่อนที่อย่างอิสระทางตอนใต้ของโปครอฟสค์ลาดตระเวนตามถนนที่ถูกทิ้งร้างเรียงรายไปด้วยอาคารอพาร์ตเมนต์ไฟไหม้

‘สันติภาพต้องไม่เป็นการยอมจำนน’

รัฐมนตรีต่างประเทศสหภาพยุโรปที่ประชุมกันในกรุงบรัสเซลส์ไม่ได้แสดงความคิดเห็นโดยละเอียดเกี่ยวกับแผนของสหรัฐ กล่าวเพียงว่าพวกเขาจะไม่ยอมรับข้อเรียกร้องให้เคียฟต้องยอมจนเสียหาย

“ชาวยูเครนต้องการสันติภาพ - สันติภาพอันยุติธรรมซึ่งเคารพอธิปไตยของทุกคน สันติภาพที่ยั่งยืนไม่ถูกท้าทายจากการรุกรานในอนาคต” นายฌอง-โนเอล บาร์โรต์ รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส กล่าว

“แต่สันติภาพจะเป็นการยอมจำนนไม่ได้”

ก่อนหน้านั้นนายรูบิโอ กล่าวผ่าน X ว่า วอชิงตันจะ “เดินหน้าพัฒนาชุดความคิดที่เป็นไปได้สำหรับการยุติสงครามนี้ ตามข้อมูลที่ได้จากทั้งสองฝ่ายในความขัดแย้ง”

“การบรรลุสันติภาพที่ยั่งยืนทั้งสองฝ่ายต้องอ่อนข้อแม้ลำบากแต่ก็จำเป็น" รูบิโอ กล่าว

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์