คืนนี้ตี 4 ‘Nvidia’ ชี้ชะตาตลาดหุ้น หากโตทะลุ 50% ตลาดไปต่อ

คืนนี้ตี 4 ‘Nvidia’ ชี้ชะตาตลาดหุ้น หากโตทะลุ 50% ตลาดไปต่อ

คืนนี้ตลาดทุนทั่วโลกจับตา ‘ผลประกอบการ Nvidia’ ว่าจะกำหนดทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐอย่างไร ท่ามกลางคำถามใหญ่ของนักลงทุนเกี่ยวกับการทุ่มใช้จ่ายด้าน AI ซึ่งหากเริ่มชะลอตัว ก็อาจส่งแรงกระแทกโดยตรงต่อโมเมนตัมการเติบโตของ Nvidia

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า วอลล์สตรีทกำลังประเมินแนวโน้มของผลประกอบการ Nvidia ที่จะประกาศคืนนี้ ตอน 4.00 น. ตามเวลาไทย 

“นี่คือ รายงานผลประกอบการแบบ ‘Nvidia พาไป ตลาดก็ไป’ ”สก็อต มาร์ติน ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนของ Kingsview Wealth Management กล่าว 

ในขณะนี้ เหล่านักวิเคราะห์คาดว่า Nvidia จะรายงานการเติบโตของทั้งกำไรสุทธิ และรายได้มากกว่า 50% ในไตรมาสที่สาม เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้ว โดย “รายได้” คาดการณ์ที่ 54,600 ล้านดอลลาร์ (โต 55% YoY) และ “กำไรต่อหุ้น” คาดการณ์ที่ 1.23 ดอลลาร์ (โต 52% YoY)

เหตุผลเพราะ Microsoft, Amazon, Alphabet และ Meta ซึ่งรวมกันคิดเป็นกว่า 40% ของยอดขาย Nvidia ถูกคาดว่าจะเพิ่มงบลงทุนด้าน AI รวมกัน 34% ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า เป็น 440,000 ล้านดอลลาร์ 

อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงคือ ตัวเลขเหล่านี้อาจไม่น่าเชื่อถืออีกต่อไป หากบรรดาผู้ใช้เงินรายใหญ่ด้าน AI โดยเฉพาะ OpenAI ชะลอหรือยกเลิกการลงทุนตามแผน

“ผู้เล่นในอุตสาหกรรม AI ต่างก็แข่งกันยกระดับความคาดหวังของตลาดขึ้นเรื่อย ๆ และตอนนี้พวกเขาไม่เพียงต้องทำตัวเลขให้ได้ตามเป้า แต่ต้องทำให้ตลาดเชื่อว่าการเติบโตจะยิ่งแรงขึ้นไปอีก” ไมเคิล โอรูร์ก หัวหน้านักกลยุทธ์ตลาดของ Jonestrading กล่าว “นี่คือเกมที่อันตรายมากสำหรับบริษัทมหาชน”

ตราบใดที่บริษัทต่างๆ ยังเดินหน้าตามแผนการลงทุนด้าน AI Nvidia ก็จะยังคงเป็นผู้ได้ประโยชน์

เมื่อ Nvidia ทำผลงานได้ดี ตลาดหุ้นก็มักจะขยับขึ้นตาม เพราะ Nvidia เป็นหุ้นที่มีน้ำหนักมากที่สุดในดัชนี S&P 500 และเป็นศูนย์กลางของธีม AI ที่ผลักดันตลาดหุ้นทำสถิติสูงสุดซ้ำแล้วซ้ำเล่าตลอดปีที่ผ่านมา

แต่ตอนนี้ นักลงทุนเริ่มหวาดระแวงกับการใช้จ่ายด้าน AI มากขึ้น และหุ้น Nvidia เอง ก็ร่วงไปกว่า 12% จากจุดสูงสุดเมื่อ 4 สัปดาห์ก่อน

ดังนั้น ผลตอบรับที่จะเกิดขึ้นต่อรายงานผลประกอบการครั้งนี้ ไม่ใช่แค่ตัวเลข จะเป็นตัวตัดสินทิศทางตลาด

อย่างไรก็ตาม แม้ราคาหุ้นเพิ่งเทขายแรง แต่การย่อตัวรอบนี้กลับทำให้มูลค่าหุ้นของบริษัทดู “น่าดึงดูดขึ้น” เมื่อเทียบกับประวัติที่ผ่านมา โดย Nvidia ซื้อขายที่ราว 29 เท่าของกำไรคาดการณ์ล่วงหน้า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีที่ 35 เท่า และสูงกว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับระดับประมาณ 26 เท่า ของ Nasdaq 100

“Nvidia ที่ระดับ 30 เท่า ไม่ได้ดูเกินเลย เมื่อเทียบกับอัตราการเติบโตที่รวดเร็วของบริษัท” มาร์ติน กล่าว

ในแง่ของตัวเลขผลประกอบการเอง นักลงทุนจะจับตา “ยอดขายของชิปซีรีส์ Blackwell” ซึ่งถูกคาดหวังว่าจะเป็นแรงขับเคลื่อนการเติบโตเฟสถัดไปของ Nvidia

อีกประเด็นสำคัญคือ อัตรากำไรที่ขยายตัวขึ้น โดยเฉพาะใน “ธุรกิจดาต้าเซนเตอร์” ซึ่งเป็นหน่วยที่ทำรายได้เกือบ 90% ของบริษัทในไตรมาสสอง

นักวิเคราะห์มองว่า ยอดขายที่เติบโตแบบพุ่งแรงของ Nvidia อาจเริ่มชะลอตัวลงในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า โดยคาดว่าในปีงบประมาณ 2026 (สิ้นสุดเดือนมกราคม) บริษัทจะเพิ่มรายได้เกือบ 60%

ตามด้วย 41% ในปีงบ 2027 และ 22% ในปีงบ 2028

แม้ว่า Nvidia จะรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งตามคาด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าราคาหุ้นจะพุ่งขึ้นทันที เพราะบรรยากาศการลงทุนเริ่มอ่อนแรงลงอย่างเห็นได้ชัด

“สิ่งที่ตลาดกำลังพยายามทำความเข้าใจในตอนนี้ คือ ‘ขนาดตลาดรวมที่แท้จริง’ ของโครงสร้างพื้นฐาน AI ทั้งหมดนี้มีมากแค่ไหนกันแน่” เมลิสซา อ็อตโต หัวหน้าฝ่ายวิจัยเทคโนโลยี สื่อ และโทรคมนาคมของ Visible Alpha กล่าว

“ดังนั้นการขายทำกำไรเล็กน้อยแล้วค่อยคิดว่า ‘ระยะเติบโตถัดไปจะมาจากตรงไหน’ ก็อาจไม่ใช่เรื่องที่ผิดนัก” อ็อตโตกล่าว
 

 

อ้างอิง: bloomberg

พิสูจน์อักษร....สุรีย์   ศิลาวงษ์