ทำไม 'ราคาทองคำ' ร่วงติดต่อกัน 4 วันติด ?

นักลงทุนไม่คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ ทำ 'ราคาทองคำ' ร่วงต่อเนื่อง
KEY
POINTS
- นักลงทุนไม่คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้
- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำ
- เจ้าหน้าที่ Fed หลายคนออกมาส่งสัญญาณว่าจะไม่มีการลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม
- ตลาดกำลังรอข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ เพื่อประเมินทิศทางนโยบายการเงิน
"ราคาทองคำ" ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน เนื่องจากนักลงทุนเริ่มไม่เชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า ปัจจุบันทองคำซื้อขายอยู่ใกล้ระดับ 4,015 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากที่ราคาร่วงไปเกือบ 4% ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา ท่ามกลางการรอข้อมูลเศรษฐกิจชุดใหม่จากสหรัฐ โดย ณ เวลา 17.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ราคาทองคำสปอต ลดลง 0.18% มาอยู่ที่ 4,038.41 ดอลลาร์ต่อออนซ์
เจ้าหน้าที่ Fed หลายคนออกมาเตือนว่า อาจจะไม่มีการลดดอกเบี้ยอีกครั้ง แม้ว่าผู้ว่าการบางรายจะเห็นด้วยกับการลดก็ตาม ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ยังคงแข็งค่าขึ้นเรื่อยๆ ความคาดหวังในการลดดอกเบี้ยลดลงอย่างเห็นได้ชัด เครื่องมือวัดความน่าจะเป็นชี้ว่า โอกาสที่จะมีการลดดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. อยู่ที่ต่ำกว่า 50% ซึ่งแตกต่างจากเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่ตลาดเกือบจะมั่นใจว่าจะมีการลด 0.25%
การเปลี่ยนแปลงความคาดหวังนี้กดดันราคาทองคำ เนื่องจากทองคำไม่ได้ให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ย และมักจะได้ประโยชน์เมื่อดอกเบี้ยต่ำ และดอลลาร์อ่อนค่า
ตลาดกำลังรอข้อมูลแรงงานสำคัญที่จะเปิดเผยในวันพฤหัสบดีนี้ โดยสำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐ จะรายงานตัวเลขการจ้างงานเดือนก.ย. ซึ่งจะช่วยสะท้อนสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศที่มี GDP ใหญ่ที่สุดในโลก หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐ ปิดทำการไปเป็นเวลา 6 สัปดาห์
ทองคำยังทำกำไรสูงในปีนี้
แม้ราคาจะร่วงในช่วงนี้ แต่ทองคำยังคงเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% ในปีนี้ และกำลังอยู่ในเส้นทางที่จะทำกำไรรายปีสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1979 นักลงทุนยังคงซื้อทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางการเงินในหลายประเทศ
นอกจากนี้ การที่ธนาคารกลางทั่วโลกซื้อทองคำในระดับสูงยังช่วยหนุนให้ราคาทำสถิติสูงสุดเหนือ 4,380 ดอลลาร์ต่อออนซ์เมื่อเดือนที่ผ่านมา
ธนาคารกลางทั่วโลกซื้อทองคำต่อเนื่อง
ตามรายงานของ Goldman Sachs การซื้อทองคำจากภาครัฐน่าจะดำเนินต่อไป โดยในเดือนก.ย. ธนาคารกลางทั่วโลกซื้อทองคำประมาณ 64 ตัน มากกว่าเดือนส.ค.ประมาณสามเท่า โดยเฉพาะจีนที่ซื้อเพิ่มประมาณ 15 ตัน นักวิเคราะห์ระบุว่า "เรายังคงเห็นแนวโน้มการสะสมทองคำของธนาคารกลางในระดับสูงต่อเนื่องหลายปี เนื่องจากธนาคารกลางกระจายการถือครองสำรองเพื่อป้องกันความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์และการเงิน"
นอกจากนี้ นักลงทุนยังติดตามข้อพิพาททางกฎหมายระหว่าง ลิซ่า คุก ผู้ว่าการเฟด กับรัฐบาลทรัมป์ ซึ่งพยายามถอดถอนเธอออกจากตำแหน่งเนื่องจากข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการฉ้อโกงจำนอง โดยศาลสูงสุดสหรัฐ จะพิจารณาคดีนี้ในวันที่ 21 ม.ค.69
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







