สภาสหรัฐจ่อเล่นแรงภาษี 500% หากยังซื้อ ‘น้ำมันรัสเซีย’

สภาสหรัฐจ่อเล่นแรงภาษี 500% หากยังซื้อ ‘น้ำมันรัสเซีย’

สหรัฐเดินเกมคว่ำบาตรรัสเซียขั้นรุนแรง เล็งเรียกเก็บ ‘ภาษีนำเข้า 500%’ จากประเทศที่ยังคงซื้อพลังงานจากรัสเซีย เพื่อตัดรายได้หลักของเครมลิน ท่ามกลางเจรจาสันติภาพที่ยังไร้ความคืบหน้า

สำนักข่าวยูโรนิวส์ รายงานว่า สภานิติบัญญัติสหรัฐกำลังยกร่างกฎหมายที่จะลงโทษประเทศที่ซื้อ “น้ำมัน และก๊าซจากรัสเซีย” โดยมีเป้าหมายเพื่อตัดช่องทางรายได้หลักของมอสโก ขณะที่การเจรจาสันติกับยูเครน ยังชะงักงัน

ในร่างกฎหมายวุฒิสภาสหรัฐฉบับใหม่ อาจกำหนด “ภาษีศุลกากรสูงสุด 500%” ต่อประเทศที่ทำการค้ากับรัสเซีย รวมถึงผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ เช่น อินเดีย และจีน 

ประธานาธิบดีทรัมป์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า รีพับลิกันกำลังร่างกรอบกฎหมายคว่ำบาตรเพิ่มเติม พร้อมระบุว่า “ผมเห็นด้วย” และกล่าวว่า “ประเทศใดก็ตามที่ทำธุรกิจกับรัสเซีย จะถูกคว่ำบาตรอย่างรุนแรง” พร้อมเสริมว่า “เราอาจเพิ่มอิหร่านเข้าไปด้วย”

ร่างกฎหมายดังกล่าวใช้ชื่อว่า “Sanctioning Russia Act of 2025” มีเป้าหมายตัดรายได้ด้านพลังงานของรัสเซีย โดยจะอนุญาตให้สหรัฐเรียกเก็บภาษีนำเข้าสูงสุด 500% จากประเทศที่ยังคงซื้อน้ำมัน ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม หรือยูเรเนียมจากรัสเซีย และภาษีอัตราเดียวกันนี้ อาจถูกใช้กับสินค้า และบริการที่มาจากรัสเซียโดยตรงด้วย

ลินด์ซีย์ เกรแฮม และริชาร์ด บลูเมนธัล วุฒิสมาชิกสหรัฐ ได้เสนอร่างกฎหมายฉบับนี้ตั้งแต่เดือนเมษายน 2025 โดยในแถลงการณ์ร่วมเมื่อเดือนกรกฎาคม ทั้งสองระบุว่า “ค้อนหนักที่สุดที่จะยุติสงครามนี้ คือ การเก็บภาษีต่อประเทศอย่างจีน อินเดีย และบราซิล ซึ่งยังคงคอยพยุงเครื่องจักรสงครามของปูติน ด้วยการซื้อน้ำมัน และก๊าซราคาถูกจากรัสเซีย”

ที่ผ่านมา ทรัมป์ยังลังเลที่จะสนับสนุนร่างกฎหมายนี้ เนื่องจากสหรัฐอยู่ระหว่างจัดกระบวนการเจรจาสันติภาพระหว่างยูเครนกับรัสเซีย รวมถึงการเป็นเจ้าภาพต้อนรับวลาดิเมียร์ ปูติน ในอลาสก้า เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2025 และการหารือความเป็นไปได้ในการจัดซัมมิตที่บูดาเปสต์ แต่แม้จะมีความพยายามทั้งหมด การเจรจายังคงชะงักงัน

ตลอดเกือบ 4 ปีของความขัดแย้ง เครมลินไม่แสดงท่าทีถอย แม้จะเผชิญมาตรการคว่ำบาตรระลอกใหม่จากสหรัฐ และสหภาพยุโรปเมื่อเดือนตุลาคม ปีนี้ก็ตาม ซึ่งรวมถึงมาตรการลงโทษบริษัทน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของรัสเซียสองแห่ง คือ Rosneft และ Lukoil ด้วยการอายัดทรัพย์สินที่ถือในสหรัฐ และสั่งห้ามบุคคลสัญชาติอเมริกันทำธุรกิจกับบริษัททั้งสอง

ในช่วงเวลาเดียวกัน สหภาพยุโรป ได้ประกาศมาตรการคว่ำบาตรชุดที่ 19 ซึ่งรวมถึงการแบนก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากรัสเซีย

ในกระบวนการออกกฎหมาย กำหนดให้ร่างกฎหมายต้องผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาก่อน จากนั้นจึงส่งต่อให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา และเมื่อทั้งสองสภาเห็นชอบในร่างฉบับเดียวกันแล้ว จึงจะถูกส่งให้ประธานาธิบดีทรัมป์ ลงนามเพื่อให้มีผลบังคับใช้
 

 

 

อ้างอิง: euro

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์