ออสเตรเลียปลื้มทรัมป์ยกเลิกภาษีเนื้อวัว หาทางลดเพิ่ม

ออสเตรเลียยินดี ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยกเลิกภาษีเนื้อวัว เร่งหาทางกดดันสหรัฐยกเลิกภาษีสินค้าออสเตรเลียทั้งหมด
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน ตามที่เมื่อวันศุกร์ (14 พ.ย.) ทรัมป์ยกเลิกภาษีที่เก็บจากสินค้าอาหารกว่า 200 รายการรวมทั้งเนื้อวัว ท่ามกลางความวิตกกังวลของผู้บริโภคว่า ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในสหรัฐสูงขึ้นทุกขณะ โดยในปี 2024 ออสเตรเลียขึ้นมาเป็นผู้ส่งเนื้อแดงไปขายในสหรัฐมากที่สุดเนื่องจากมีราคาต่ำกว่าและเป็นเนื้อไม่ติดมันที่สหรัฐขาดแคลน
ล่าสุดนางเพนนี หว่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศออสเตรเลีย กล่าวกับสถานีโทรทัศน์เอบีซี
“เรายินดีกับการยกเลิกภาษีเหล่านี้ นั่นเป็นเรื่องดีสำหรับผู้ผลิตเนื้อวัวออสเตรเลีย” ขณะที่ นายกรัฐมนตรีแอนโธนี อัลบาเนซี ซึ่งให้สัมภาษณ์มาจากเมลเบิร์นกล่าวว่า รัฐบาลพรรคแรงงานของเขาจะยังคงผลักดันต่อไป “เพื่อให้เกิดการเก็บภาษีศุลกากรต่างตอบแทนอย่างแท้จริงซึ่งจะเป็นศูนย์”
ทั้งนี้ ในบรรดาภาษีทรัมป์ที่เก็บจากสินค้านานาชนิดที่ส่งเข้าไปขายในสหรัฐ นายกฯออสเตรเลีย กล่าวว่า บางชนิดเป็น “การตอบโต้” ตามขนาดการขาดดุลการค้าที่สหรัฐมีกับประเทศนั้นๆ
“เราเชื่อมั่นอย่างมากและจะเดินหน้าผลักดันให้เราได้ภาษีเป็นศูนย์” อัลบาเนซีกล่าว
ด้านหว่องไม่ได้กล่าวว่า รัฐบาลแนวกลางซ้ายของอัลบาเนซีที่ก่อนหน้านี้พยายามวิ่งเต้นของลดภาษี ขณะนี้คาดว่า ทรัมป์จะลดภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมออสเตรเลียที่ถูกเก็บในอัตรา 50% หรือไม่
“เรายังคงเดินหน้าตามจุดยืนของเราต่อไป” หว่องระบุ
ในเดือน เม.ย. ทรัมป์ย้ำถึงการค้าเนื้อวัวที่ไม่สมดุลกับออสเตรเลีย ผู้ส่งออกเนื้อวัวมายังสหรัฐปีละกว่า 2.61 พันล้านดอลลาร์ ไม่กี่เดือนหลังจากนั้นออสเตรเลียประกาศผ่อนคลายข้อจำกัดนำเข้าเนื้อวัวจากสหรัฐ ที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2003ด้วยเหตุผลด้านความกังวลเกี่ยวกับโรควัวบ้า หรือ Bovine Spongiform Encephalopathy
ออสเตรเลียส่งเนื้อวัวไปขายสหรัฐปีละ 150,000-400,000 ตัน
นับตั้งแต่ปี 1990 ซึ่งได้รับความนิยมมากในหมู่เชนร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด







