'สหรัฐ' คว่ำบาตร 'บริษัทไทย' ฉากบังหน้าแก๊งสแกมเมอร์ เอี่ยวอาชญากรจีนในเมียนมา

'สหรัฐ' คว่ำบาตร 'บริษัทไทย' ฉากบังหน้าแก๊งสแกมเมอร์ เอี่ยวอาชญากรจีนในเมียนมา

กระทรวงการคลังสหรัฐ ประกาศคว่ำบาตร บริษัทไทยและกองทัพกะเหรี่ยงพุทธประชาธิปไตย (DKBA) ในเมียนมา ฐานเอี่ยวแก๊งสแกมเมอร์และอาชญากรจีน สั่งอายัดทรัพย์ในสหรัฐ บริษัทใดที่เกี่ยวข้องอีกอาจโดนด้วย

สำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศ (OFAC) ของกระทรวงการคลังสหรัฐ ประกาศเมื่อวันพุธ (12 พ.ย.) ว่า ได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตร ต่อกองทัพกะเหรี่ยงพุทธประชาธิปไตย (DKBA) ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธในเมียนมา และผู้นำระดับสูงอีก 4 คน ที่ให้การสนับสนุนศูนย์หลอกลวงทางไซเบอร์ที่มุ่งเป้าไปยังชาวอเมริกันโดยใช้แผนหลอกลวงให้ลงทุน

OFAC ยังได้คว่ำบาตรบริษัทไทย ทั้ง Trans Asia International Holding Group Thailand Company Limited (Trans Asia),Troth Star Company Limited (Troth Star) และ Thai national Chamu Sawang ที่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มอาชญากรจีน และทำงานกับ DKBA และกลุ่มติดอาวุธอื่นๆ เพื่อพัฒนาศูนย์สแกมเมอร์

จอห์น เค เฮอเลย์ ปลัดกระทรวงการคลังฝ่ายการก่อการร้ายและข่าวกรองทางการเงิน กล่าวว่า ปฏิบัติการของเครือข่ายอาชญากรในเมียนมา ขโมยเงินหลายพันล้านดอลลาร์จากชาวอเมริกันที่ทำงานหนัก ผ่านการหลอกลวงทางออนไลน์ และว่าเครือข่ายเหล่านี้ค้ามนุษย์ และช่วยเติมเชื้อไฟสงครามกลางเมืองในเมียนมา

“รัฐบาลจะใช้เครื่องมือทุกอย่างที่มีเพื่อจัดการกับอาชญากรเหล่านั้น ไม่ว่าพวกเขาทำงานทีใด และเพื่อปกป้องครอบครัวอเมริกันจากการแสวงหาประโยชน์”

การดำเนินการนี้เกิดจากความร่วมมือกับสำนักงานภาคสนามซานดิเอโกของสำนักงานสอบสวนกลางแห่งสหรัฐ (FBI,) สำนักงานอัยการสหรัฐ ประจำเขตโคลัมเบีย, กองอาญาของกระทรวงยุติธรรม, หน่วยข่าวกรองสหรัฐ (USSS), และสำนักงานปราบปรามยาเสพติด

นอกจากนี้อัยการสหรัฐประจำศาลแขวงโคลัมเบียได้ร่วมกับกองอาญาของกระทรวงยุติธรรม, FBI และ USSS จัดตั้งหน่วยปราบปรามศูนย์หลอกลวงด้วย

ด้วยผลกระทบที่เกิดขึ้นมหาศาลจากศูนย์หลอกลวงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หน่วยปราบปรามใหม่ได้สั่งให้ตัวแทนและทนายความจากสำนักงานต่างๆ ทำการสืบสวน ขัดขวาง และดำเนินคดีกับศูนย์หลอกลวงที่อันตรายที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงผู้นำของพวกเขา โดยจะเน้นปราบปรามเป้าหมายในเมียนมา กัมพูชา และลาว

'สหรัฐ' คว่ำบาตร 'บริษัทไทย' ฉากบังหน้าแก๊งสแกมเมอร์ เอี่ยวอาชญากรจีนในเมียนมา

กระบวนการหลอกลวงชาวอเมริกัน

ประกาศดังกล่าว ระบุว่า อาชญากรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มุ่งเป้าหลอกลวงชาวอเมริกันมากขึ้น ด้วยปฏิบัติการหลอกลวงทางไซเบอร์ครั้งใหญ่ โดยรัฐบาลคาดว่า ชาวอเมริกันสูญเสียเงินให้กับการหลอกลวงในภูมิภาคนี้ไปอย่างน้อย 10,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2024 เพิ่มขึ้น 66% จากปีก่อนหน้า

ในการหลอกลวงเหยื่อ องค์กรอาชญากรรมเหล่านี้มักชักชวนบุคคลต่างๆ ไปทำงานในศูนย์หลอกลวงโดยยื่นข้อเสนอเท็จ และเมื่อไปทำงานด้วยแล้วก็ขู่ด้วยการผูกมัดหนี้สิน กระทำความรุนแรงทางกาย และข่มขู่ว่าจะค้าประเวณี เพื่อบีบบังคับให้บุคคลเหล่านั้นทำงานหลอกลวงคนแปลกหน้าทางออนไลน์ โดยใช้แอปพลิเคชันส่งข้อความ หรือแอปส่งข้อความกับเหยื่อ

ตามรายงานของ FinCEN ในเดือน ก.ย.2566 ระบุว่า กลุ่มคนทำงานหลอกลวงจะล่อลวงเหยื่อด้วยการให้สัญญาว่าจะมีความสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ กับเหยื่อ เพื่อสร้างความไว้วางใจ จากนั้นจะโน้มน้าวให้เป้าหมายร่วม “ลงทุน” ในสินทรัพย์เสมือนจริงบนเว็บไซต์ที่ออกแบบมาให้ดูเหมือนแพลตฟอร์มการลงทุนที่ถูกกฎหมาย แต่ความเป็นจริงคือเว็บที่อาชญากรควบคุม ซึ่งหากเข้าไปลงทุนเงินที่ฝากไว้ในแพตลฟอร์มจะถูกขโมย

อาชญากรเหล่านี้จะมุ่งเป้าไปที่บุคคลที่มีทักษะภาษาอังกฤษโดยเฉพาะ รวมถึงเหยื่อชาวอเมริกัน อดีตนักต้มตุ๋นรายหนึ่งเผยว่าพวกเขามุ่งเป้าไปที่ชาวอเมริกันโดยเฉพาะ และบางรายถึงกับกำหนดโควตาจำนวนเป้าหมายต่อวันไว้ด้วย

'สหรัฐ' คว่ำบาตร 'บริษัทไทย' ฉากบังหน้าแก๊งสแกมเมอร์ เอี่ยวอาชญากรจีนในเมียนมา

แหล่งกบดานแก๊งต้มตุ๋น มี DKBA ช่วยคุม

ไทชาง เป็นศูนย์สแกมเมอร์ที่ทราบกันว่าเป็นแหล่งปฏิบัติการหลอกลวงทางไซเบอร์ที่มุ่งเป้าและขโมยเงินจากชาวอเมริกันจำนวนมาก ไทชางตั้งอยู่ใกล้กับเมืองเมียวดีในรัฐกะเหรี่ยงของเมียนมา ซึ่งอยู่ในเขตแดนที่ DKBA กลุ่มติดอาวุธผู้สนับสนุนรัฐบาลทหารเมียนมาควบคุมอยู่

ไทชางก่อตั้งโดย พลจัตวาซาย จอ หล่า ผู้นำอาวุโสของ DKBA และมีบริษัททรานส์เอเชียในแม่สอด ประเทศไทย เป็นธุรกิจบังหน้าให้บริษัทที่เป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ (TCO) ของจีนที่ลงทุนในศูนย์หลอกลวงดังกล่าว

ทรานส์เอเชียยังได้ทำสัญญาเช่าที่ดินกับหน่วยงานอื่นๆ รวมถึงกลุ่ม KNA และบริษัท Troth Star ที่สหรัฐคว่ำบาตร เพื่อพัฒนาศูนย์หลอกลวงต่างๆ รวมถึงศูนย์หลอกลวงฮวนยา และ KK Park อันฉาวโฉ่ ที่ตั้งอยู่ในเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง และพวกเขามักมุ่งเป้าหลอกลวงชาวอเมริกัน

ทั้งนี้ กลุ่มติดอาวุธ DKBA ไม่เพียงแต่ช่วยรักษาความปลอดภัย และหนุนการดำเนินงานของศูนย์ไทชางเท่านั้น แต่ยังมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการกระทำรุนแรงต่อเหยื่อการค้ามนุษย์ภายในศูนย์ดังกล่าวอีกด้วย เห็นได้จากภาพทหาร DKBA ทำร้ายร่างกายคนงานที่ใส่กุญแจมือที่ถูกเผยแพร่ออกไป

จากปากคำของเหยื่อที่ได้รับการช่วยเหลือเผยว่า พวกเขาถูกกลุ่มอาชญากรรมช็อตไฟฟ้า แขวนในห้องมืด และถูกกระทำอย่างโหดร้ายในรูปแบบอื่นๆ ในขณะที่ DKBA ก็ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากการมีส่วนร่วมในศูนย์หลอกลวง และนำเงินไปสนับสนุนกิจกรรมผิดกฎหมายของกลุ่ม นอกจากนี้ DKBA ยังร่วมมือกับองค์กรอาชญากรรมจีนที่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด การค้ามนุษย์ การค้าอาวุธ และการค้าสัตว์ป่า รวมถึงการฟอกเงินด้วย

ใครเกี่ยวข้องอาจถูกสหรัฐคว่ำบาตรเพิ่ม

มาตรการค่ำบาตรของ OFAC ต่อบริษัทหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงทางไซเบอร์ ได้แก่ การอายัดทรัพย์สินและผลประโยชน์ในทรัพย์สินทั้งหมดที่อยู่ในสหรัฐ หรืออยู่ภายใต้การครอบครอง/ควบคุมของบุคคลในสหรัฐในทันที ส่วนหน่วยงานหรือบริษัทใด ๆ ที่ผู้ถูกคว่ำบาตรเข้าไปถือหุ้น ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม รวมกันถึง 50% หรือมากกว่านั้น บริษัทเหล่านั้นก็จะถูกอายัดทรัพย์สินด้วย

ในขณะที่สถาบันการเงินหรือนิติบุคคลอื่นที่ทำธุรกรรมกับผู้ถูกคว่ำบาตร อาจถูกคว่ำบาตรร่วมหรือถูกดำเนินคดีด้วย

ทั้งนี้ จุดมุ่งหมายสูงสุดของมาตรการคว่ำบาตรเหล่านี้ไม่ใช่การลงโทษ แต่เป็นการผลักดันให้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในทางบวก โดยผู้ที่ถูกคว่ำบาตรสามารถเข้าสู่กระบวนการยื่นขอถอนชื่อออกจากบัญชีคว่ำบาตรได้

การคว่ำบาตรมีขึ้นหลังจากกระทรวงฯ ดำเนินการปราบปรามผู้กระทำผิดที่ก่ออาชญากรรมในเมียนมาหลายรายการ 

เมื่อวันที่ 5 พ.ค. OFAC ประกาศให้กองทัพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNA) กลุ่มติดอาวุธในเมียนมาเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ (TCO) รวมถึงผู้นำกลุ่มซอ ชิตตู่ และลูกชายของเขาสองคน ซอ ทูเอมู และซอ ชิตชิต ที่มีบทบาทช่วยอำนวยความสะดวกการค้ามนุษย์และการหลอกลวงไซเบอร์ที่เป็นอันตรายต่อชาวอเมริกัน

ต่อมา 8 ก.ย. OFAC ได้คว่ำบาตร 12 บริษัท และบุคคล 2 คนในกัมพูชาและเมียนมา รวมถึงผู้ใต้บังคับบัญชา 2 คนของผู้นำซอ ชิตตู่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการเครือข่ายแก๊งสแกมเมอร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

จากนั้นวันที่ 14 ต.ค. OFAC ได้ร่วมกับสำนักงานเครือจักรภพและการพัฒนาต่างประเทศของสหราชอาณาจักร กำหนดให้ Prince Group กลุ่มบริษัทในกัมพูชาที่ดำเนินกิจการศูนย์หลอกลวงทางไซเบอร์ที่มุ่งเป้าไปที่ชาวอเมริกันและสหราชอาณาจักร เป็นบริษัท TCO พร้อมคว่ำบาตรบุคคลที่เกี่ยวข้องอีก 146 ราย และปิดกั้นบริษัท Huione Group ไม่ให้เข้าถึงระบบการเงินของของสหรัฐ