อียูพิจารณา ‘แบน Huawei–ZTE’ หวั่นปักกิ่งใช้สอดแนมข้อมูล

สหภาพยุโรปจ่อ ‘ยกระดับมาตรการความมั่นคง’ ด้วยการพิจารณาแผนบังคับให้ประเทศสมาชิกทยอย ‘เลิกใช้’ อุปกรณ์จาก ‘Huawei’ และ ‘ZTE’ ท่ามกลางความกังวลว่า เทคโนโลยีจีนอาจเป็นช่องทางสอดแนมของปักกิ่ง
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า คณะกรรมาธิการยุโรปกำลังพิจารณา “บังคับ” ให้ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป ค่อยๆ “ยุติการใช้งานอุปกรณ์ของ Huawei Technologies และ ZTE” ของจีน ในโครงข่ายโทรคมนาคมของตน ตามข้อมูลจากแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับเรื่องนี้
แม้ว่าการตัดสินใจเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐาน จะเป็นอำนาจของแต่ละรัฐบาลชาติสมาชิก แต่หากคำแนะนำดังกล่าว ถูกยกระดับให้มีผลผูกพันทางกฎหมาย ประเทศสมาชิกที่ไม่ปฏิบัติตาม อาจเผชิญ “กระบวนการละเมิดกฎ” และ “บทลงโทษทางการเงิน”
ทั้งนี้ สหภาพยุโรปกำลังให้ความสำคัญเพิ่มขึ้นกับ “ความเสี่ยงจากผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมของจีน” ท่ามกลางความตึงเครียดด้านการค้า และการเมืองกับคู่ค้ารายใหญ่อันดับสองอย่างจีน
ความกังวลหลักคือ การมอบอำนาจควบคุมโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของประเทศให้แก่บริษัทที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัฐบาลปักกิ่ง และอาจ “เป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งชาติ” ของยุโรปเอง
ไม่เพียงเท่านั้น คณะกรรมาธิการยุโรปยังพิจารณามาตรการ “กดดันประเทศนอกสหภาพยุโรป” ไม่ให้พึ่งพาผู้ผลิตอุปกรณ์จากจีน โดยอาจระงับการให้เงินทุนจากโครงการ Global Gateway หากประเทศนั้นนำเงินไปใช้ในโครงการที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ของ Huawei ตามคำกล่าวของแหล่งข่าว
โธมัส เรญีเยร์ โฆษกคณะกรรมาธิการยุโรปกล่าวว่า “ความมั่นคงของเครือข่าย 5G มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจของเรา”
ส่วนกระทรวงการต่างประเทศของจีนเคยวิจารณ์ว่า การที่สหภาพยุโรประบุให้ Huawei และ ZTE เป็น “ผู้จัดหาที่มีความเสี่ยงสูง” นั้น “ขาดหลักฐานทางกฎหมาย และข้อเท็จจริงรองรับ”
อย่างไรก็ตาม การ “แบนผู้ผลิตบางราย” อาจก่อให้เกิดศึกการเมืองขึ้น เนื่องจากหลายประเทศไม่ต้องการโอนอำนาจการตัดสินใจเกี่ยวกับ Huawei ให้แก่คณะกรรมาธิการยุโรป
ส่วนผู้ให้บริการโทรคมนาคมเองก็อาจคัดค้าน โดยให้เหตุผลว่า เทคโนโลยีของ Huawei “มีคุณภาพดีกว่า และราคาถูกกว่า” เมื่อเทียบกับผู้ผลิตจากตะวันตก
เรญีเยร์ กล่าวว่า “คณะกรรมาธิการยุโรปเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกที่ยังไม่ดำเนินการตามแนวทางใน 5G Toolbox รีบใช้มาตรการที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดการกับความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ และทันท่วงที เพราะการไม่ลงมืออย่างรวดเร็ว จะทำให้สหภาพยุโรปโดยรวม ‘ตกอยู่ในความเสี่ยงอย่างชัดเจน’ ”
สำหรับสวีเดน เป็นหนึ่งในประเทศที่ “สั่งแบน Huawei อย่างสมบูรณ์” แต่การตัดสินใจดังกล่าวได้จุดชนวน “การตอบโต้จากรัฐบาลจีน” ซึ่งทำให้หลายประเทศในยุโรปลังเลที่จะเดินตามรอยสวีเดน
เมื่อโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐสมัยที่สองในปีนี้ วงการโทรคมนาคมยุโรปต่างคาดว่า จะต้องเผชิญการตรวจสอบเข้มข้นยิ่งขึ้น ต่อบทบาทของบริษัทเทคโนโลยีจีนในยุโรป
ในเวลาเดียวกัน คู่แข่งจากฟินแลนด์อย่าง Nokia ก็ได้เตือนมาโดยตลอดถึงการใช้งานอุปกรณ์ของ Huawei อย่างแพร่หลายทั่วเครือข่ายยุโรป โดยเฉพาะในขณะที่จีนเอง กำลังเดินหน้าลดการพึ่งพาเทคโนโลยีของ Nokia และผู้ผลิตตะวันตกอื่นๆ ภายในตลาดในประเทศของตน
อ้างอิง: bloomberg
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







