‘สีหศักดิ์’ประท้วงกัมพูชาแล้วเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิด

กต.แถลง สีหศักดิ์ ติดต่อ ปรัก สุคน ประท้วงกัมพูชา ทหารไทยเหยียบกับระเบิด ไม่เป็นไปตามเป้าประสงค์และความตั้งใจของทั้งสองฝ่ายตามถ้อยแถลง (Joint Declaration) ที่กัวลาลัมเปอร์ ถือเป็นความถดถอย
เมื่อเวลา 17.00 น. ที่ผ่านมา นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงว่า ตามที่เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 (วันนี้) เกิดเหตุการณ์กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1611 ซึ่งทำการลาดตระเวนในพื้นที่ห้วยตามาเรีย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ประสบเหตุเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล เป็นเหตุให้นายทหารไทย 2 คน ได้รับบาดเจ็บ โดยหนึ่งในนั้น ข้อเท้าขวาขาดกระทรวงการต่างประเทศขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อนายทหารไทยที่ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
เบื้องต้น นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้มีภารกิจราชการที่ฮ่องกง ได้ติดต่อกับนายปรัก สุคน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการประเทศกัมพูชา เพื่อทำการประท้วงแล้วว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่เป็นไปตามเป้าประสงค์ (spirit) และความตั้งใจของทั้งสองฝ่ายตามถ้อยแถลง (Joint Declaration) ผลการพบหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีไทยและนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกัน และในวันนี้ กระทรวงฯ อยู่ระหว่างมีหนังสือประท้วงฝ่ายกัมพูชาอย่างเป็นทางการ
กรณีเชลยศึก 18 คน เป็นไปตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนก่อนหนานี้ ฝ่ายไทยจะชะลอการส่งตัวนายทหารกัมพูชาที่ถูกจับกุมทั้ง 18 คน ออกไปก่อนจนกว่าจะมีความชัดเจน
ต่อเหตุการณ์นี้ ฝ่ายไทยจะดำเนินการตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการดำเนินการตามอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (อนุสัญญาออตตาวา) ด้วย โดยในช่วงเช้าของวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 (วันพรุ่งนี้) รัฐมนตรีฯ จะเข้าร่วมการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ตามด้วยการประชุมคณะรัฐมนตรี และในช่วงบ่าย รัฐมนตรีฯ จะติดตามนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อเยี่ยมนายทหารที่ได้รับบาดเจ็บและรับฟังเกี่ยวกับสถานการณ์ในพื้นที่ด้วย หลังจากนั้น จะมีการประเมินการดำเนินมาตรการต่าง ๆ ต่อไป
เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นset back หรือการถดถอยต่อการดำเนินการตาม Joint Declarationซึ่งตามที่นายกรัฐมนตรีได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ว่า ไทยจะต้องชะลอการดำเนินการและพิจารณาเรื่องนี้อย่างถี่ถ้วนในการประชุมที่เกี่ยวข้องในวันพรุ่งนี้ เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการดำเนินการในกรอบ Joint Declaration ต่อไป







