เฟด เผชิญ 'สุญญากาศข้อมูล' หลังรัฐบาลปิด!

เฟด เผชิญ 'สุญญากาศข้อมูล' หลังรัฐบาลปิด!

การปิดทำการของรัฐบาลสหรัฐฯ ทำให้ธนาคารกลาง (เฟด) เผชิญภาวะขาดแคลนข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ

KEY

POINTS

  • การปิดทำการของรัฐบาลสหรัฐฯ ทำให้ธนาคารกลาง (เฟด) เผชิญภาวะขาดแคลนข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ
  • ข้อมูลหลักที่หายไปคือตัวเลขการจ้างงานและอัตราเงินเฟ้อ (CPI) ซึ่งถูกเลื่อนประกาศหรือหยุดเก็บข้อมูล
  • ภาวะสุญญากาศข้อมูลนี้สร้างความซับซ้อนให้กับการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมครั้งถัดไป
  • เฟดเปรียบเสมือนต้องตัดสินใจนโยบายการเงินโดยไม่มีข้อมูลสำคัญ เหมือนการขับรถในหมอกลงจัด
  • การไม่มีข้อมูลเงินเฟ้อที่ชัดเจนอาจเป็นเหตุผลให้เฟดเลือกที่จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย

สหรัฐเพิ่งผ่านวิกฤตรัฐบาลปิดทำการนานที่สุดในประวัติศาสตร์ และผลกระทบที่ตามมาไม่ใช่แค่ข้าราชการต้องหยุดงาน แต่เป็นเรื่อง "ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญหายตัว" ที่กำลังสร้างปัญหาใหญ่ให้กับธนาคารกลางสหรัฐ (Fed)

บลูมเบิร์กรายงานว่า หน่วยงานสถิติของรัฐบาลต้องเลื่อนการประกาศตัวเลขการจ้างงานรายเดือนไปแล้วถึง 2 ครั้ง และที่น่าเป็นห่วงกว่าคือรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) หรือตัวเลขเงินเฟ้อของเดือนต.ค. อาจจะไม่มีเผยแพร่เลย เพราะหน่วยงานไม่ได้แค่เลื่อนการประกาศ แต่ยังหยุดการเก็บข้อมูลไปด้วยแล้ว

ปัญหาใหญ่คือตอนนี้เฟดกำลังจะประชุมตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. แต่กลับไม่มีข้อมูลสำคัญสองเรื่องคือ "เงินเฟ้อ" และ "ตลาดงาน" มาช่วยในการตัดสินใจ เหมือนกับต้องขับรถในหมอกลงแน่น มองไม่เห็นหน้าเห็นหลัง แถมเฟดก็มีความเห็นขัดแย้งกันอยู่แล้วว่าควรขึ้นดอกเบี้ยต่อหรือหยุด

แม้รัฐบาลจะกลับมาเปิดทำการแล้ว แต่ข้อมูลที่ได้กลับคืนมาก็จะเป็นแค่ข้อมูลเก่าย้อนหลัง ทำให้วิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันได้ยาก สำหรับเจ้าหน้าที่เฟดที่กังวลเรื่องเงินเฟ้ออาจจะพุ่งสูง การที่ไม่มีตัวเลขเงินเฟ้อมายืนยันนี่แหละ อาจจะกลายเป็นข้ออ้างสำคัญที่จะให้พวกเขาเลือก "คงอัตราดอกเบี้ยไว้ก่อน" เพื่อความปลอดภัย

อย่างไรก็ตาม ตลาดส่วนใหญ่ยังคาดหวังว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม นักลงทุนจึงจับตาคำพูดของเจ้าหน้าที่เฟดอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก ที่ออกมาบอกว่าการตัดสินใจครั้งนี้ "ยากมากที่จะหาจุดสมดุล" เพราะแม้เงินเฟ้อจะยังสูง แต่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ก็ยังแข็งแกร่งดี