สหรัฐเล็งลงทุนบริษัทแรร์เอิร์ธ หวังทลายการครอบงำของจีน

สหรัฐเล็งลงทุนบริษัทแรร์เอิร์ธ หวังทลายการครอบงำของจีน

การเผชิญหน้าเรื่องแรร์เอิร์ธระหว่างสหรัฐ กับจีน อาจผ่อนคลายลงชั่วคราวหลังผู้นำทั้งสองคุยกันจบ แต่กลยุทธ์จากนี้ยังไม่จบ สหรัฐเร่งลงทุนในอุตสาหกรรมที่จีนครองความเป็นเจ้า

KEY

POINTS

  • รัฐบาลสหรัฐโดยกระทรวงพาณิชย์ และกลาโหม ประกาศให้เงินทุนสนับสนุนและอาจเข้าถือหุ้นในบริษัทผลิตแม่เหล็กแรร์เอิร์ธในประเทศ
  • มีเป้าหมายเพื่อสร้างห่วงโซ่อุปทานแรร์เอิร์ธของตนเอง เพื่อลดการพึ่งพา และทลายการครอบงำตลาดของจีนซึ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่
  • บริษัท Vulcan Elements และ ReElement Technologies Corp ได้รับเงินทุน และสินเชื่อรวมกว่าพันล้านดอลลาร์เพื่อสร้างโรงงานและขยายกำลังการผลิต

การเผชิญหน้าเรื่องแรร์เอิร์ธระหว่างสหรัฐ กับจีน อาจผ่อนคลายลงชั่วคราวหลังผู้นำทั้งสองคุยกันจบ แต่กลยุทธ์จากนี้ยังไม่จบ สหรัฐเร่งลงทุนในอุตสาหกรรมที่จีนครองความเป็นเจ้า 

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า กระทรวงพาณิชย์ และกลาโหมสหรัฐประกาศจัดหาเงินทุนและอาจเข้าถือหุ้นในบริษัทผลิตแม่เหล็กแรร์เอิร์ธในประเทศ หัวใจสำคัญในการทำสงครามการค้ากับจีน ซัพพลายเออร์เจ้าตลาด

 เมื่อวันจันทร์ (3 พ.ย.68) กระทรวงพาณิชย์สหรัฐลงนามหนังสือแสดงเจตจำนงเบื้องต้นไม่มีข้อผูกมัด จัดหาเงินทุน 50 ล้านดอลลาร์ ตามกฎหมายชิป ปี 2022 ให้กับบริษัท Vulcan Elements เพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ที่จำเป็นในการผลิตแม่เหล็กถาวรซึ่งใช้ในเครื่องบินรบ, กังหันลม และสินค้าสำคัญอื่นๆ อีกนานาชนิด

Vulcan Elements ออกแถลงการณ์ของตนเองว่า ได้รับสินเชื่อโดยตรงจากสำนักงานเงินทุนยุทธศาสตร์ กระทรวงกลาโหม 620 ล้านดอลลาร์ และเงินทุนจากเอกชน 550 ล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างโรงงานแม่เหล็ก 10,000 ตันในสหรัฐ ส่วน ReElement Technologies Corp หุ้นส่วนของ Vulcan Elements ได้สินเชื่อโดยตรง 80 ล้านดอลลาร์ จากสำนักงานเงินทุนยุทธศาสตร์ กระทรวงกลาโหม เพื่อขยายขีดความสามารถด้านรีไซเคิล และแปรรูป โดยนักลงทุนเอกชนจะสมทบในเม็ดเงินที่เท่ากัน 

 

 

 

“ฝันเป็นจริง ทั้งหมดนี้เป็นการเพิ่มผลผลิตที่มีอยู่ ทำให้ถึงระดับที่ส่งผลกับประเทศ” จอห์น มัสลิน ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของVulcan Elements กล่าว

คำประกาศนี้ถือเป็นการดำเนินการล่าสุดของรัฐบาลกลางในการลงทุนโดยตรงด้านห่วงโซ่อุปทานการผลิตแม่เหล็กถาวร อุตสาหกรรมที่จีนเป็นเจ้าใหญ่

ทั้งยังเป็นการบ่งชี้เพิ่มเติมถึงความทุ่มเทของรัฐบาลทรัมป์ในการสร้างตลาดแรร์เอิร์ธ และแม่เหล็กดำเนินการนอกอิทธิพลของจีน การเดิมพันที่มีความเสี่ยงแต่อาจช่วยให้สหรัฐ และพันธมิตรเป็นอิสระจากจีนที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลกได้

อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าทุกส่วนที่เกี่ยวข้องจะแสดงบทบาทอย่างไร ในเมื่อเงินทุนตามกฎหมายชิปเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงที่ไม่มีผลผูกมัด

 กระทรวงกลาโหมยืนยันรายละเอียดการเตรียมการดังกล่าวกับบลูมเบิร์ก พร้อมเสริมว่า เงินทุนสำหรับสินเชื่อแบบมีเงื่อนไขมาจากกฎหมายภาษี และงบประมาณขนาดใหญ่ (One Big Beautiful Bill Act) ที่ลงนามในเดือนก.ค. ให้อำนาจปล่อยกู้ 1 แสนล้านดอลลาร์สำหรับการผลิตแร่ธาตุสำคัญรวมถึงอุตสาหกรรม และโครงการที่เกี่ยวข้อง

“ข้อตกลงเหล่านี้จะสนับสนุนการแยกองค์ประกอบแร่ธาตุหายากอันทันสมัย การทำให้เป็นโลหะ และผลิตแม่เหล็กในสหรัฐ” แถลงการณ์จากเพนตากอนระบุ

ก่อนหน้านี้ โฮวาร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ใช้เงินทุนจากกฎหมายชิปซื้อหุ้นในอินเทล บริษัทผลิตชิปสหรัฐที่กำลังตกที่นั่งลำบาก เป็นไปได้ว่ากรณี Vulcan ก็จะทำแบบเดียวกัน บริษัทนี้จัดหาแม่เหล็กในสหรัฐสำหรับอาวุธ และผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ ทั้งหมดนี้ชี้ให้เห็นว่าลุตนิกกำลังใช้อิทธิพลสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ พร้อมๆ กับพยายามสร้างผลตอบแทนให้กับรัฐบาลสหรัฐ

ในแถลงการณ์ของVulcan Elements ซึ่งมีฐานปฏิบัติการในนอร์ทแคโรไลนา ลุตนิกระบุ

“การลงทุนของเราใน Vulcan Elements จะเร่งการผลิตแม่เหล็กแร่ธาตุหายากของสหรัฐให้กับผู้ผลิตอเมริกัน”

“เรามุ่งเน้นอย่างเต็มกำลังนำการผลิตแร่ธาตุหายาก และแรร์เอิร์ธกลับมาบ้าน”

การเป็นพันธมิตรครั้งนี้รวมถึงการที่เพนตากอนได้วอร์แรนท์ทั้งใน Vulcan Elements และ ReElement แต่ไม่ได้ระบุมูลค่า วอร์แรนท์ให้สิทธิเพนตากอนซื้อหุ้นในบริษัททั้งสอง

เมื่อข่าวนี้ออกไปหุ้นของอเมริกันรีสอร์ซคอร์ป (American Resources Corp) เจ้าของ ReElement พุ่งขึ้นมากถึง 28% ก่อนจะลดช่วงบวกลงมา ปิดตลาดนิวยอร์กราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 3.9%

  •   ‘หุ้นแรร์เอิร์ธ’ สหรัฐพุ่งแรงกว่า 600%

แร่ธาตุสำคัญหรือแรร์เอิร์ธ ได้กลายเป็นตัวแปรสำคัญในสมรภูมิ ภูมิรัฐศาสตร์ ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างจีน และสหรัฐ สถานการณ์นี้ทำให้ราคาหุ้นของบริษัทเหล่านี้เติบโตอย่างก้าวกระโดด จนกลายเป็นจุดสนใจของนักลงทุน

แม้ว่าช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นยังคงผันผวนตามสถานกาณ์ของการพบกันระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน แต่หุ้นของบริษัทผู้ผลิตแร่ในสหรัฐปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก นำโดย Critical Metals ยังคงพุ่งขึ้นถึง 241% ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา ขณะที่หุ้นของบริษัทอื่นๆ ในกลุ่มเดียวกัน เช่น NioCorp Developments, Energy Fuels และ Idaho Strategic Resources ก็ปรับตัวสูงขึ้นเกินกว่า 100% ในช่วงเวลาเดียวกัน

สิ่งที่น่าสนใจคือ ช่วง 10 เดือนแรกตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันราคาหุ้น Energy Fuelsได้เพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า หรือเกือบ 400% ในขณะที่ราคาหุ้น NioCorp Developmentsเพิ่มขึ้นกว่า 5 เท่า หรือ 673.33% จาก 1.52 ดอลลาร์ มาแตะที่ 11.6 ดอลลาร์ต่อหุ้น

หุ้นแรร์เอิร์ธในสหรัฐพุ่งขึ้น ภายหลังการพบกันของทรัมป์ และสี  เมื่อจีนเผยบทสรุปว่า จีนได้ตกลงที่จะเลื่อนการบังคับใช้มาตรการควบคุมการส่งออกธาตุหายาก ที่เดิมกำหนดไว้ในวันที่ 9 ต.ค.68 ออกไปเป็นเวลาหนึ่งปี การตัดสินใจนี้ถือเป็นการบรรเทาความตึงเครียดทางการค้า และภูมิรัฐศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับแร่ธาตุสำคัญเหล่านี้ชั่วคราว

ออดัน มาร์ตินเซน นักวิจัยจาก Rystad Energy ให้ความเห็นว่า ราคาหุ้นบริษัทแร่หายากที่พุ่งสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา มาจากสามปัจจัยหลัก คือ 1.ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ระหว่างสหรัฐ และจีน 2.การสนับสนุนนโยบายเชิงกลยุทธ์จากรัฐบาล และ 3.การเก็งกำไร จากกระแสความสนใจ และการลงทุนที่เข้ามาอย่างรวดเร็วในตลาด

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์